ซ้ำเติมเกษตรกร แห่แจ้งความยกหมู่บ้าน เอาผิดแก็งมิจฉาชีพ หลอกขายปุ๋ยปลอม เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

จากกรณีกลุ่มมิจฉาชีพฉวยโอกาสช่วงปุ๋ยมีราคาแพง หลอกลวงนำเอาปุ๋ยปลอมมาจำหน่ายให้กับกลุ่มเกษตรกรชาวสวนในพื้นที่อำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร ทำให้มีผู้หลงเชื่อซื้อปุ๋ยไม่มีคุณภาพตกเป็นเหยื่อจำนวนมากมูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท หลังเกิดเหตุชาวบ้านจึงรวมตัวกันเรียกร้องความเป็นธรรมและเอาผิดแก็งดังกล่าวโดยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(ปคบ.)

ล่าสุดวันที่ 22 เม.ย. 65 พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.2 บก.ปคบ. พร้อมพนักงานสอบสวนรวม 3 นาย และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(ปคบ.) เดินทางลงพื้นที่หมู่1 (บ้านปะระ) ต.สลุย อ.ท่าแซะ ตั้งโต๊ะรับแจ้งความร้องทุกข์และเพื่อบริการความสะดวกแก่ประชาชนชาวสวนที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีดังกล่าวไม่ต้องเดินทางไปยังกรุงเทพมหานคร

พ.ต.อ.อภิชาติ กล่าวว่า ตำรวจ ปคบ.เดินทางลงพื้นที่โดยเป็นการบริการประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงขายปุ๋ยปลอมหรือซิลเลอร์ดินที่ปั้นเป็นก้อน โดยไม่ต้องเดินทางแจ้งความไกลถึงกรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้เสียหายบางรายไม่สะดวกในการเดินทางไกลและเสียเวลา เนื่องจากมีมูลค่าความเสียหายตั้งแต่ 5,000-10,000-20,000 โดยพบข้อมูลจากการสืบสวนมีผู้เสียหายเบื้องต้นประมาณ 50 ราย 3 ตำบลในพื้นที่อำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร วันนี้จึงนัดผู้เสียหาเดินทางมาสอบปากคำเพื่อยืนยันดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด

สำหรับแก็งมิจฉาชีพหลอกลวงขายปุ๋ยปลอมสืบทราบว่ามีจำนวน 3 คน ซึ่งในนั้นเป็นคนในพื้นที่ทำหน้าที่ออกสำรวจสอบถามหรือพรีออเดอร์ตามหมู่บ้านหรือประกาศขายตามเฟซบุ๊กว่าผู้ใดสนใจปุ๋ยท้องเรือ โดยใช้อุบายพูดโน้มน้าวให้เชื่อและเสนอราคากระสอบละ 540 บาท ซึ่งถูกกว่าท้องตลาดหลายเท่าตัว

หลังจากมีชาวสวนหลงกลตกเป็นเหยื่อสั่งซื้อก็จะไปเอาสินค้ามาจากทางภาคกลางโดยรับมากระสอบละ 190 บาท มาขายให้ชาวสวนกระสอบละ 540 บาท หลังจากชาวสวนนำมาใช้แล้วและตั้งข้อสังเกต เชื่อว่าน่าจะเป็นปุ๋ยปลอมใช้ไม่ได้ผลจึงแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ.

ด้าน นายสนั่น พุ่มพัว ผู้ใหญ่บ้านหมู่1 บ้านปะระ ต.สลุย กล่าวว่า มีลูกบ้านได้รับความเสียหายจากมิจฉาชีพหลอกขายปุ๋ยปลอมจำนวน 20 หลังคาเรือน ประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมาคนร้ายกลุ่มนี้จะเข้าหาเกษตรกรตีสนิทชวนเชื่อว่าเป็นปุ๋ยท้องเรือ ซึ่งเดิมชาวสวนเคยใช้ปุ๋ยท้องเรือที่เป็นปุ๋ยแท้และใช้ได้ดีมีคุณภาพจึงเชื่อหลงเชื่อได้ง่ายและสั่งซื้อ แต่ครั้งนี้มาเจอกลุ่มหลอกขายปุ๋ยปลอม

“จึงฝากแจ้งเตือนเกษตรกรชาวสวนหมู่บ้านตนเองและหมู่บ้านใกล้เคียง อย่าได้หลงเชื่อก่อนซื้อควรทดสอบก่อนเบื้องต้นลองละลายน้ำ รสชาติต้องเค็ม ถูกมือจะรู้สึกแสบร้อนในการเลือกซื้อปุ๋ยให้ สังเกตกระสอบต้องมีตราสัญญาลักษณ์ต่าง ๆ และความยับยั้งชั่งคิดว่า “ปุ๋ยถูกและดีมันไม่มี” หรือถ้าคนขายมีพิรุธให้แจ้งผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชนก่อนได้เลย” ผู้ใหญ่บ้านกล่าว