นายอำเภอเมืองนครพนม นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองลุยซ้อนแผนล่อซื้อ จับกุมสาว 23 ปี ตกงาน หนีจากพัทยา มาตั้งแก๊งค้ากามผ่านโซเชียล สร้างรายได้ชดเชยช่วงโควิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (16 เม.ย.) เมื่อเวลา 20.00 น. นายสมรักษ์ ยกน้อยวงษ์ นายอำเภอเมืองนครพนม พร้อมด้วย นายจักรพล เที่ยงภักดิ์ ปลัดอำเภอกลุ่มงานความมั่นคง พร้อมกำลังอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) จำนวน 7 นาย ร่วมกันวางแผนนำกำลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบ ติดตามจับกุมแก๊งสาวค้าประเวณีขายบริการทางเพศ
โดยติดต่อผ่านทางช่องทางโซเชียลมีเดีย ไลน์ และทวิตเตอร์ หาลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มหญิงขายบริการ ที่เดินทางมาจากต่างถิ่น พื้นที่ จ.พัทยา จ.ชลบุรี เพื่อมาปักหลักตั้งกลุ่มขายบริการ ในพื้นที่ภาคอีสาน รวมถึง จ.นครพนม เพื่อหารายได้ชดเชยช่วงโควิด
หลังมีการสืบทราบ จึงวางแผนให้เจ้าหน้าที่ปลอมตัวเป็นลูกค้า มีการติดต่อทางไลน์กลุ่มส่วนตัวเป็นลักษณะวีไอพี เพื่อติดต่อหญิงสาวขายบริการ ไปรับงานภายในที่พักแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ซึ่งมีการต่อต่อซื้อขายในราคาประมาณ 1,500 – 2,00 บาท ต่อครั้ง
จนกระทั่งสาวขายบริการทางเพศหลงเชื่อมารับงาน จึงซ้อนแผนจับกุมคาห้องพัก พร้อมเงินของกลางเงินสดค้าจ้างบริการ ควบคุมตัวมาสอบสวน คือ นางสาวเอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี ปี ชาว ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมแจ้งข้อหาเบื้องต้นข้อหาค้าประเวณี และจะมีการสอบสวน เกี่ยวกับพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด และมีการกักตัว ตามมาตรการป้องกันโรคโควิด ในช่วงการดำเนินคดี
เบื้องต้น จากกการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ทางผู้ต้องหารับสารภารภาพว่า ปกติมีอาชีพเป็นสาวเสิร์ฟ สายเอ็นเตอร์เทรน รับงานทั่วไป รวมถึงขายบริการกับลูกค้าวีไอพีในสถานบริการ ในพื้นที่ จ.พัทยา และ จ.ชลบุรี เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว
แต่พักหลังได้รับผลกระทบจากโรคโควิดระบาด ทำให้สถานบันเทิงถูกปิดและไม่มีลูกค้า ทำให้ขาดรายได้ แต่มีภาระเพราะต้องเลี้ยงดูครอบครัว รวมถึงภาระหนี้สินผ่อนชำระรถยนต์ แต่ไม่มีงานทำ รายได้ไม่เพียงพอ จึงมีการชักชวนเพื่อนในกลุ่มมาเดินสายปักหลักเช่าที่พัก หางานขายบริการกับลูกค้าในพื้นที่ จ.นครพนม ได้ประมาณ 1 เดือน
โดยใช้วิธีการติดต่อโฆษณา ผ่านสื่อโซเชียล และมีการชักชวนเข้าร่วมกลุ่มวีไอพี เพื่อติดต่อซื้อบริการ และมีการเสนอโปรโมชั่น และแนะนำลักษณะรูปร่างให้กับลูกค้า ซึ่งมีลูกค้ามาใช้บริการทุกวัน สร้างรายได้วันละหลาย 1,000 บาท
เจ้าหน้าที่จึงสอบสวนบันทึกเป็นหลักฐาน นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้ ยังได้เร่งตรวจสอบขยายผล ติดตามเพื่อนร่วมแก๊งมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เชื่อว่าจะมีการทำงานเป็นกลุ่มไม่ต่ำกว่า 5-10 คน และมีแม่เล้าดูแล ทำเป็นธุรกิจอยู่ระหว่างการเร่งสืบสวนขยายผลดำเนินคดีตามกฎหมายค้าประเวณี รวมถึงตรวจสอบเอาผิดเกี่ยวกับมาตรการดูแลป้องกันโรคโควิดระบาด