นายจอห์น แกรม ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ซิลลิค ฟาร์มา เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อวันอังคาร (29 มิ.ย.) ว่า คำสั่งซื้อจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับวัคซีนของโมเดอร์นา ที่ใช้เทคโนโลยีเอ็มอาร์เอ็นเอ จองเกือบเต็มแล้วสำหรับปีนี้
“ธุรกรรมจำนวนมากที่ทำขึ้นในวันนี้ จะต้องรอไปถึงปี 2564 เพราะวัคซีนโมเดรอ์นาแทบไม่เหลือแล้วสำหรับปี 2564” นายจอห์น แกรม กล่าว
“ตอนนี้ต้องคิดเอาไว้ก่อนว่าถ้าเริ่มเจรจาวันนี้ จะต้องรอถึงปี 2565 กว่าจะได้วัคซีน”
ซีอีโอซิลลิค ฟาร์มา กล่าวอีกว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับจำนวนวัคซีนที่ผลิตออกมา
อย่างไรก็ตามนายแกรมไม่ได้เปิดเผยเกี่ยวกับการเจรจาหรือสัญญาใดๆ ที่ทำกับซิลลิค ฟาร์มา เพราะต้องรักษาความลับของคู่สัญญาไว้
ความพยายามจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สูงขึ้นมาก เพราะหลายประเทศในภูมิภาคนี้เผชิญการระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งรุนแรงตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา อย่างเช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์
ขณะเดียวกัน การระบาดดังกล่าวก็เป็นบททดสอบครั้งใหญ่สำหรับเจ้าหน้าที่รัฐในไทย เวียดนาม กัมพูชา และสิงคโปร์ ที่เคยควบคุมการระบาดได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ไทย และไต้หวัน ติดต่อหรือเซ็นสัญญาซื้อวัคซีนโมเดอร์นาไปแล้ว และบางแห่งก็เริ่มรับวัคซีนยี่ห้อดังกล่าวไปแล้วเช่นกัน
นายแกรม บอกอีกว่า นอกจากนี้ยังมีประเทศที่เริ่มซื้อวัคซีนโมเดอร์นาไปฉีดเป็นเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันในปี 2565-2566 แล้วด้วย
ย้อนกลับไปเมื่อวันพฤหัสบดี (24 มิ.ย.)นายสรยุทธ์ สุทัศนจินดา โพสต์ถามเกี่ยวกับกระบวนการการจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นาของไทยที่ดูเหมือนเงียบหายไป ทำให้ช่วงต่อมาของวันเดียวกัน องค์การเภสัชกรรมแถลงตอบโต้ว่า กำลังร่างสัญญาซื้อขายกับซิลลิค ฟาร์มา จำนวน 5 ล้านโดส และน่าจะนำเข้าได้เร็วที่สุดภายในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2564 หรือไม่ก็ช่วงต้นปี 2565
- องค์การเภสัชกรรม เผยกำลังร่างสัญญาซื้อวัคซีนโมเดอร์นา คาดนำเข้าเร็วสุดไตรมาส 4