ซิดนีย์สั่งอพยพด่วน น้ำฝนรวมนับเดือนถล่มคืนเดียวจมบาดาล

ซิดนีย์สั่งอพยพด่วน – วันที่ 7 เม.ย. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า นครซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ประกาศอพยพผู้อยู่อาศัยหลายพันคนหลังเกิดฝนตกหนักตลอดคืนที่ผ่านมา แต่มีปริมาณน้ำฝนเทียบเท่าฝนตกหลายเดือนทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลัน

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางภาวะฝนตกหนักในภาคตะวันออกของออสเตรเลีย ส่งผลให้หลายพื้นที่ประกาศให้ประชาชนในนครซิดนีย์กว่า 5 ล้านคน งดเดินทางหากไม่มีเหตุจำเป็นและเตรียมพร้อมหากมีคำสั่งให้อพยพฉุกเฉิน

นายเดเนียล ออสติน รักษาการณ์ผู้อำนวยการสำนักงานเหตุฉุกเฉิน รัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า สถานการณ์ยังไม่สามารถคาดเดาได้เพราะมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ฝนที่ตกลงมาอย่างรุนแรงในช่วงสั้นๆ แทบทุกชั่วโมง กำลังก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่

สำนักงานอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า นครซิดนีย์เผชิญกับปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาแล้วถึง 1,227 มิลลิเมตร (48 นิ้ว) ในปีนี้ ซึ่งมากเสียยิ่งกว่าปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยตลอดปี หรือประมาณ 1,213 มม. พร้อมเตือนว่า ชุมชนริมชายฝั่งของซิดนีย์อาจต้องเจอกับฝนตกหนัก 180 มม. ในอีก 24 ชั่วโมงนี้

สำนักงานอุตุฯ เตือนอีกว่า สภาพอากาศแปรปรวนที่เกิดขึ้นนั้นทอดตัวครอบคลุมตลอดแนวพื้นที่ริมชายฝั่งทางใต้ของรัฐนิวเซาท์เวลส์เป็นแนวยาวกว่า 600 กิโลเมตร

หาดบอนได หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในนครซิดนีย์ วัดปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในรอบ 24 ชม. อยู่ที่กว่า 170 มม. ส่งผลให้มีผู้คนหลายพันคน ได้รับคำสั่งจากทางการให้อพยพหนีตาย ขณะที่บรรดาห้างร้านเอกชนนั้นเก็บข้าวของขึ้นที่สูงกันอย่างโกลาหล

นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลที่แหล่งจ่ายน้ำมันของโรงกลั่นบริษัทแอมพอลทำให้น้ำมันไหลปะปนมากับกระแสน้ำที่ไหลบ่าเข้าท่วมชุมชนใกล้เคียง แต่ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว

รายงานระบุว่า ออสเตรเลียกำลังเผชิญกับฤดูร้อนที่ได้รับอิทธิพลจากปรากฏการณ์ลานีญาต่อเนื่องเป็นปีที่สองแล้ว ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักกว่าปกตินำไปสู่ภาวะน้ำล้นตลิ่ง

โดยออสเตรเลียประสบสภาพอากาศรุนแรงถึง 3 รอบ ในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมาในหลายพื้นที่ เช่น ทางเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์ และทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐควีนส์แลนด์ที่มีปริมาณน้ำฝนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เช่นเดียวกันกับนครซิดนีย์ที่เจอกับเดือนมี.ค. ที่ฝนตกหนักที่สุด

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า สาเหตุหลักของสภาพอากาศรุนแรงสุดขั้วมาจากปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง หรือโลกร้อน ที่ทำให้เกิดภาวะแห้งแล้งยาวนานกว่าปกติ และฤดูมรสุมที่สั้นลง ฝนตกน้อยลง แต่มีความรุนแรงมากกว่าเดิมหลายเท่าตัวเพื่อชดเชยปริมาณน้ำที่หายไป ซึ่งความรุนแรงดังกล่าวจะทวีกำลังมากขึ้นจนหลายพื้นที่เกินกว่าที่มนุษย์จะสามารถอยู่อาศัยได้