ซัดหนี้จากรัฐบาลก่อน ‘ธนกร’ สวนเพื่อไทย ทำเพื่อประเทศหรือทำเพื่อใครกันแน่ ฉะแค่คำพูดที่ว่าจะไม่ทิ้งคนรากหญ้า ก็ไม่น่าเชื่อถือแล้ว
เมื่อเวลา 24 เม.ย.65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยระบุว่าวันที่รัฐบาลยุบสภาเราพร้อมหมดแล้ว มั่นใจว่าจะเปลี่ยนประเทศไทยจากสภาพที่เต็มไปด้วยหนี้ มองไม่เห็นอนาคต มีแต่ความทุกข์ เป็นประเทศที่หาเงินได้ง่าย เต็มไปด้วยโอกาส มีแต่ความหวังที่เป็นจริงได้ และมั่นใจว่า หากพรรคเพื่อไทยมีโอกาสบริหารประเทศ ถึง 8 ปี จะไม่เห็นปรากฎการณ์ คนอยากย้ายประเทศว่า
ต้องขอให้มองย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีที่แล้วด้วยว่ารัฐบาลชุดนี้ต้องมาใช้หนี้มากมายจากการทุจริตที่รัฐบาลชุดที่แล้วทิ้งเอาไว้โดยไม่เคยรับผิดชอบใดๆ ดังนั้น รัฐบาลชุดนี้จึงเข้ามาโดยไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์ แต่เริ่มต้นจากติดลบ แต่เรามุ่งมั่นตั้งใจที่จะเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ส่วนที่บอกว่าหากพรรคเพื่อไทยมีโอกาสบริหารประเทศถึง 8 ปีนั้น ถือว่ายังเป็นโชคดีของประเทศไทย เพระตนไม่อยากนึกเลยว่าจะต้องมีอดีตนายกฯ และอดีตรัฐมนตรีอีกกี่คน ที่ต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศหรือติดคุก เพียงเพราะความต้องการของคนเพียงไม่กี่คน
“แค่คำพูดที่ว่า จะไม่ทิ้งคนรากหญ้า ก็ไม่น่าเชื่อถือแล้ว เพราะการกอบโกยหาผลประโยชน์จากโครงการจำนำข้าวพิสูจน์ได้ชัดเจนว่า เป็นการทำเพื่อพวกพ้องของตัวเอง ไม่ได้คำนึงถึงชาวนาและคนรากหญ้าเลยแม้แต่นิดเดียว ส่วนปรากฎการณ์คนอยากย้ายประเทศนั้น ก็เห็นมีแต่คนในพรรคเพื่อไทยที่หนีไปต่างประเทศเพราะไม่ต้องการรับโทษจากความผิดที่ตัวเองก่อไว้ แล้วทิ้งให้ลูกน้องติดคุกแทนตัวเอง อยากให้ย้อนถามตัวเองด้วยว่า ที่กำลังทำอยู่นั้น เป็นความต้องการและทำเพื่อชีวิตของประชาชนหรือเพื่อใครกันแน่” นายธนกร กล่าว
นายธนกร กล่าวว่า ส่วนกรณีที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรระบุว่าความสิ้นหวังของประเทศ เกิดจากคนเพียงกลุ่มหนึ่ง ที่เสพติดอำนาจ และทำทุกอย่างเพื่อรักษาอำนาจ สร้างรัฐธรรมนูญที่ผูกขาดอำนาจไว้กับรัฐราชการและพวกพ้อง นั้น นพ.ชลน่าน คงลืมไปว่า สิ่งที่ตัวเองพูดนั้นคือสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับการเมืองไทยนับตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน มาจนถึงพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ จนเป็นที่มาของวลีทางการเมืองมากมาย ทั้งสภาผัวเมีย สภาทาส หรือเผด็จการรัฐสภา ดังนั้น นพ.ชลน่านไม่น่าจะความจำสั้น ลืมสิ่งที่พรรคตัวเองเคยทำกับประเทศไว้ได้ง่ายๆ ขนาดนี้
“คำพูดที่ว่า เราไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นฝ่ายค้าน เราเกิดมาเพื่อเป็นรัฐบาล เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ชัดเจนว่า พรรคเพื่อไทยไม่เคยยอมรับกติกาใดๆ ถ้าตัวเองไม่ได้เปรียบ เหตุการณ์สภาล่มที่ผ่านมาก็เพราะไม่ยอมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน วันๆ จ้องหาแต่โอกาสว่าเมื่อไหร่จะได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง แล้วแบบนี้จะให้ประชาชนไว้วางใจได้อย่างไร คนที่เลือกงานบริษัทต่างๆ เขายังไม่อยากจะรับ แล้วพรรคที่เลือกทำหน้าที่ จะให้ประชาชนยอมรับได้อย่างไร” นายธนกร กล่าว