‘ซัดดำ’ ยันต้นเหตุคือเจ้าภาพ ถูกซัดจนสลบ ถึงขั้นต้องปั๊มหัวใจจนฟื้น เล่าเหตุการณืวันเกิดเรื่อง วัยรุ่นบ้านอื่นตีกัน ลั่นไม่จ่าย ถ้าผิดก็ยอมติดคุก
จากกรณี น.ส.วนิดา อายุ 22 ปี เจ้าสาวที่ขึ้นเวทีด่ากราดคนที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทงานแต่ง ที่บริเวณสนามฟุตบอลโรงเรียนบ้านไคร่นุ่น ต.กุดขอนแก่น อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น เมื่อคืนวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่นายซัดดำ คนที่ถูกทำร้ายร่างกายและฝ่ายเจ้าสาวอ้างว่าเป็นผู้เริ่มเรื่องก็ออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่ตัวต้นเรื่อง แถมยังบอกว่าถูกพ่อและญาติเจ้าสาวรุมทำร้าย
ล่าสุดวันที่ 17 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับ นายซัดดำ ก่อนพาไปดูจุดเกิดเหตุที่สนามฟุตบอลและสนามตะกร้อในโรงเรียนบ้านไคร่นุ่น นายซัดดำ กล่าวว่า ตามที่ถูกกล่าวหานั้น ไม่ใช่ความจริงทั้งหมด ยอมรับว่าดื่มสุรา และมีอาการมึนเมา แต่ไม่ได้หาเรื่องทะเลาะวิวาทกับใครในงาน มีเพียงวัยรุ่นต่างหมู่บ้านที่มาเที่ยวงานแล้วมีเรื่องทะเลาะกันหน้าเวที เจ้าหน้าที่ที่ควบคุมความสงบเรียบร้อยก็มาไล่กลุ่มที่มีเรื่องกันออกนอกพื้นที่งาน ซึ่งไม่เกี่ยวกับตน แต่ตนก็ยอมออกจากบริเวณหน้าเวที และไปยืนเต้นอยู่ข้างสนาม ไม่นานก็ถูกทำร้าย รู้สึกตัวอีกที ก็ฟื้นอยู่ที่ประตูทางเข้าโรงเรียน
“ผมทราบจากน้องชายและคนที่เข้ามาช่วยเหลือว่า พ่อเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าบ่าวพากันมารุมทำร้ายผม แล้วลากไปกระทืบต่อที่สนามตะกร้อ ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร น้องชายยังบอกอีกว่า ช่วงที่ถูกญาติเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าบ่าวทำร้ายนั้น น้องชายเข้ามาช่วยเหลือ และกราบขอร้องก็ไม่มีใครสนใจ ยังทำร้ายซ้ำ จนมีเพื่อนบ้านมาช่วยหามผมออกไปปั๊มหัวใจที่ประตูทางเข้าโรงเรียน เมื่อผมฟื้นชาวบ้านอุ้มร่างใส่รถจยย.พ่วงข้างส่งกลับบ้าน” นายซัดดำ กล่าว
นายซัดดำ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฝ่ายเจ้าสาวเรียกแม่ไปคุยที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน เพื่อขอค่าจ้างวงดนตรี 85,000บาท แต่ครอบครัวไม่มีเงิน และขอยืนยันว่าเหตุการณ์ทั้งหมด ตนไม่ได้เป็นฝ่ายก่อขึ้น จึงบอกแม่ว่า ตนไม่ผิดและไม่ขอรับผิดชอบจ่ายเงินใดๆ ทั้งสิ้น และถ้าตนผิดก็ขอโทษต่อสังคมและชาวบ้าน แต่เรื่องนี้ตนไม่ผิด จึงไม่รู้จะขอโทษใคร และฝ่ายเจ้าสาวจะโยนความผิดให้ตนฝ่ายเดียวก็ไม่ถูกต้อง อีกทั้งตนเป็นฝ่ายถูกทำร้ายก่อนจนสลบ เมื่อสลบแล้วถูกปั๊มหัวใจ จะไปต่อสู้หรือต่อยใครได้ จึงอยากขอความเป็นธรรมให้ด้วย คนไม่ผิดจะให้รับผิดชอบได้อย่างไร
ขณะที่ นางอัมพร อายุ 53 ปี แม่ของ นายซัดดำ กล่าวว่า สิ่งที่ฝ่ายเจ้าสาวกล่าวหานั้น เป็นการเอาหลายๆ เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับวันแต่งงานมาพูด จึงอยากบอกว่า ให้พูดตามความเป็นจริง ตนไม่เห็นเหตุการณ์ แต่ก็ทราบรายละเอียดจากเพื่อนบ้านว่า ลูกชายถูกญาติฝ่ายเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าบ่าวรุมทำร้ายจนสลบ โชคดีที่ไม่ตาย
กับเรื่องที่เกิดขึ้น และเจ้าสาวเรียกร้องให้ครอบครัวตนจ่ายเงินค่าวงดนตรี จำนวน 85,000 บาทนั้น บอกตรงๆ ว่าไม่มีจ่าย และถ้าเจ้าสาวแจ้งความแล้วก็ขอให้ทุกอย่างดำเนินไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ถ้าถึงที่สุดแล้วว่าลูกชายต้องจ่ายก็ไม่มีเงินจะจ่ายให้ ก็ต้องปล่อยให้ลูกชายติดคุกแทน