ผู้โดยสาร เปิดใจเข็ดจนตาย เรือสปีดโบ๊ทท้องแตกจมทะเล 8 ชีวิตลอยคอกลางทะเลกว่า 2 ชั่วโมง หลังกลับจากเกาะช้าง โชคดีเรือประมง เจ้าหน้าที่ ช่วยรอดปลอดภัยทั้งหมด

วันที่ 17 ม.ค.2565 จากกรณีเกิดเหตุเรือสปีดโบ๊ทท้องเรือแตกขณะกลับมาจากเกาะช้าง บริเวณหน้าเกาะลิ่ม ห่างจากฝั่ง ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง จ.ตราด ประมาณ 2 ก.ม. แล้วจมลงก้นทะเล ทำให้ผู้โดยสารและนายท้ายเรือรวม 8 คน สวมเสื้อชูชีพลอยคออยู่กลางทะเลรอความช่วยเหลือ เหตุเกิดเมื่อเวลา 16.00 น.ที่ผ่านมา เบื้องต้นทราบว่าคลื่นลมแรงทำให้ท้องแรงถูกกระแทกหลายครั้งจนท้องเรือแตก

ล่าสุดเรื่องนี้ นายมานพ เหลืองอ่อน ผอ.สำนักงานเจ้าท่าที่ 6 สาขาตราด เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากเรือเจ้าท่าที่ออกไปช่วยเหลือพร้อมเรือศรภ.เกาะช้าง และเรือตำรวจน้ำแหลมงอบ ทราบว่าพบผู้ประสบภัยชายอายุประมาณ 60 ปี ลอยคออยู่กลางทะเลหน้าหาดทรายดำถูกมาขึ้นฝั่งที่บ้านแหลมทองหลาง หน่วยกู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือนำส่งรพ.แล้ว ขณะที่ท่าเรือประมงแหลมงอบ เรือสปีดโบ๊ทของเจ้าท่าตราดนำผู้ประสบภัยทั้ง 6 คน เข้ามาเทียบท่า โดยมีนางลัดา มีอาการอ่อนเพลีย ส่วนคนอื่นๆมีอาการอ่อนเพลียเล็กน้อย ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร

นายมินยา อายุ 66 ปี ผู้โดยสารเล่าว่า เรือแตกระหว่างเดินทางเข้าฝั่ง หลังเดินทางไปเที่ยวเกาะช้าง ต้องลอยคออยู่ในทะเลนานกว่า 2 ชม. พี่สาวอายุ 80 ปี มีอาการตกใจและอ่อนเพลียต้องดูแลและพยุงให้ลอยอยู่ในทะเล ระหว่างนั้นก็พยายามโทรเรียกเรือมาช่วยนานเป็นชั่วโมง โชคดีที่มีเรือประมง 3 ลำมาช่วยไว้ได้ เหตุการณ์นี้เข็ดไปจนตาย ต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือจนรอดชีวิตมาได้ทุกคน

ด้านนายสมควร อายุ 62 ปี คนขับเรือสปีดโบ๊ท เล่านาทีชีวิต หลังนำผู้โดยสารทั้ง 7 คนไปทำธุระที่บ้านสลักคอก ต.เกาะช้างใต้ โดยออกจากเกาะลิ่มมุ่งสู่หน้าทะเลแหลมทองหลาง ปักหัวมาร่องน้ำหน้าบ้านยายม่อมประมาณ 200 เมตร ห่างจากฝั่งทะเลแหลมงอบ 2 ไมล์ทะเล เรือแตกแยกออกเป็น 2 ส่วนน้ำทะลักเข้าเรือจึงเบาเครื่องบอกให้ทุกคนสวมเสื้อชูชีพแล้วให้โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ สาเหตุที่เรือแตกเป็นที่น่าสังเกตว่า ปกติเวลาเรือวิ่งจะหน้าลอย แต่ครั้งนี้ปรากฏว่าหน้าเรือไม่ลอย

“ผมเป็นคนทะเลจึงไม่ตกใจเท่าไร แต่ผู้โดยสารทุกคนน่าจะตกใจและช็อกอยากจะบอกว่า ชีวิตของเราเกิดได้เพียงครั้งเดียว ช่วงอยู่กลางทะเลก็ช่วยกันว่ายน้ำพยุงกันมาเรื่อย ๆ เข้าหาฝั่ง ผมก็พูดอะไรไม่ค่อยถูก แต่ก็ได้ช่วยประคองทุกคนมาเรื่อยๆ

และเตือนสติทุกคนว่า อย่าทิ้งคุณยาย จึงตัดสินใจเทน้ำมันออกจากถังแกลลอนทั้งหมด แล้วให้คุณยายจับแกลลอนไว้แล้วผมก็ประคองคุณยายมาตลอด บอกทุกคนว่าอย่าไปฝืนคลื่นให้ปล่อยไปตามธรรมชาติ ระยะเวลา 2 ชั่วโมงที่อยู่กลางทะเลนั้น เห็นเรือของกรมประมงที่ออกมาจากแหลมทองหลาง ทุกคนดีใจมาก ”