ช็อกทั้งรถตู้! ผู้โดยสารหนีตายลงกลางทาง จู่ๆ โชเฟอร์คลั่ง ฉีกเสื้อตัวเอง ถามหาไฟแช็กจะเผา ทำร้ายร่างกายลูกเจ้าของรถ เผยนาทีระทึก
วันที่ 18 เม.ย.65 ศูนย์วิทยุ สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุคนขับรถตู้รับจ้างเกิดอาการคลุ้มคลั่งโวยวาย ฉีกเสื้อตัวเองขาด แล้วบอกจะใช้ไฟแช็กจุดเผาเสื้อ ทั้งยังทำร้ายร่างกายลูกชายเจ้าของรถตู้ซึ่งอายุเพียง 14 ปี สร้างความตื่นตกใจให้กับผู้โดยสารที่นั่งมาในรถตู้คันดังกล่าว ต่างพากันรีบลงจากรถแล้ววิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือจากคนข้างทาง เพราะกลัวจะถูกทำร้าย เหตุเกิดบนถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม ฝั่งมุ่งหน้าขาเข้าตัวอำเภอประโคนชัย จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ประโคนชัย และตำรวจสายตรวจตู้ยามโคกม้า ร่วมตรวจสอบและระงับเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถตู้จอดอยู่ริมถนน มีผู้โดยสารทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ ประมาณ 5 คน อยู่ในอาการตื่นตกใจ ห่างจากตัวรถไม่ไกลก็พบผู้ชายไม่สวมเสื้อ ใส่เพียงกางเกงยีนขายาว ทราบชื่อคือ นายปรีชา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี เป็นคนขับรถตู้คันดังกล่าว ท่าทางรนรานเดินไปเดินมา เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น นายปรีชา ก็พูดวกไปวนมาฟังไม่รู้เรื่อง บอกประมาณว่าขับรถมาแล้วเกิดล้มในวัด แต่วัดไหนจำไม่ได้
จากการสอบถาม นางบุญเริ่ม สำลี อายุ 53 ปี หนึ่งในผู้โดยสาร เปิดเผยว่า ตนนั่งรถตู้คันดังกล่าวออกจากจาก อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จะเดินทางไปงานศพที่ จ.อุบลราชธานี โดยมีรถตู้ขับตามกันมา 2 คัน พอมาถึงจุดเกิดเหตุจู่ๆ ก็จอดรถแล้วคนขับก็พูดขึ้นมาว่าง่วงนอน บอกให้คนในรถมาขับแทนหน่อย สักพักเขาก็ฉีกเสื้อตัวเองจนขาดแล้วก็เริ่มโวยวาย ถามหาไฟแช็ก บอกว่าจะเอามาจุดไฟเผาเสื้อ จากนั้นก็ทำร้ายร่างกายลูกชายเจ้าของรถด้วยการใช้เท้าเตะ เหยียบขา จนคนในรถตกใจเห็นท่าไม่ดี จึงพากันลงจากรถ แล้วตนก็อุ้มหลานสาวเดินหนีไปขอความช่วยเหลือจากคนข้างทาง เพราะกลัวจะถูกทำร้าย ยอมรับว่าตกใจและกลัวมาก
ขณะที่ ด.ช.เอ (นามสมมติ) ลูกชายเจ้าของรถตู้ กล่าวว่า พ่อให้ตนนั่งรถคันดังกล่าวมาเป็นเพื่อนกับคนขับที่พ่อจ้างมาช่วยขับรถให้ เพราะพ่อไปขับอีกคัน พอมาถึงจุดเกิดเหตุ นายปรีชา ก็จอดรถแล้วใช้มือฉีกเสื้อตัวเองจนขาด แล้วถามหาไฟแช็กบอกจะเอามาจุดเผาเสื้อทิ้ง แล้วก็กระโดดมาเหยียบขาตัวเองอย่างแรง ตนตกใจและกลัวมาก เพราะไม่รู้ว่า นายปรีชา เป็นอะไรแต่อาการเหมือนคนเมาอะไรสักอย่าง
ด้าน นายสุรเชษฎ์ ตันสุ อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของรถตู้ บอกว่า ได้วิ่งรถโดยสารมาจากกรุงเทพฯ โดยไปส่งผู้โดยสารที่จังหวัดอุบลราชธานี จากนั้นก็จะรถตู้มาประมาณ 2 คัน ส่วนตนได้จอดแวะปั๊มที่ปักธงชัย ก่อนจะออกมาในช่วง 05.00 น แต่คนขับรถคันที่เกิดเหตุได้ขับออกมาก่อน ซึ่งตนบอกให้รอออกมาพร้อมกันแต่ก็ไม่รู้ว่าเขารีบกลับมาทำไม จากนั้นตนได้รับโทรศัพท์จากลูกว่าให้รีบขับรถตามมาเพราะกลัวว่าจะได้รับอันตราย
ตนเข้ามาดูก็ตกใจ เพราะคนขับรถที่เป็นลูกน้องได้ถอดเสื้อและไม่สวมใส่รองเท้าและอยู่ในอาการพูดจาไม่รู้เรื่อง พูดวกไปวนมา จึงติดต่อไปทางภรรยาและญาติทราบว่าน่าจะเมาแต่ไม่มีเรื่องของยาเสพติดมาเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ตนได้ว่าจ้างให้ขับรถครั้งละ 1,800-2,000 บาท โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 รอบแรกขับรถดีไม่มีปัญหา แต่รอบนี้ออกอาการ เบื้องต้นตำรวจได้ควบคุมตัวไปตรวจปัสสาวะที่ สภ.ประโคนชัย และให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป