ชุมพรแล้งหนัก เจ้าของสวนร่ำไห้ ทุเรียนแห้งตาย หวังอีก 2 ปีได้ผลผลิต ลงทุนไปกว่า 1.5 ล้านบาท ต้องสูญไปกับตา วอนรัฐช่วย
วันที่ 16 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าว จ.ชุมพร รายงานว่า เกิดภัยแล้งหนักฝนทิ้งช่วงมากว่า 2 เดือน อากาศร้อนอบอ้าว ส่งผลให้เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างหนัก ลำคลองน้ำแห้งขอดไม่พอใช้ทำการเกษตร โดยเฉพาะ อ.สวี
นางเพ็ญพร พันธุ์มณี อายุ 58 ปี ชาวเกษตรกรปลูกทุเรียนในพื้นที่ ต.ทุ่งระยะ อ.สวี จ.ชุมพร หนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งหนักกว่าทุกปี เปิดเผยว่า ตนปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทองบนเนื้อที่ 16 ไร่ จำนวน 310 ต้น อายุกว่า 2 ปี กำลังยืนต้นตายยกสวนทั้งหมด บางต้นมีสภาพในแห้งร่วงเหลือแต่กิ่ง บางต้นใบเหลืองส่วนยอดบนแห้งตาย ใบทยอยร่วงนางเพ็ญพร กล่าวต่อว่า ฝนแล้งมากว่า 2 เดือน ตอนนี้เดือดร้อนหนักมาก ทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ปลูกไว้ทยอยแห้งตายทั้งหมด มีสระน้ำ 4 บ่อ สูบรดน้ำวันละ 1 ครั้ง ครั้งละแค่ 10 นาทีเฉพาะช่วงเย็นก็ยังไม่เพียงพอ น้ำในสระเริ่มหมดเหลือแค่ครึ่งหน้าแข้ง ไม่มีน้ำใช้ ช่วยเหลือตัวเองจนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว นางเพ็ญพร กล่าอีกว่า ตนรู้สึกหมดหวัง ถ้าในอีก 3 วันนี้ฝนไม่ตก คงตายไม่เหลือสักต้น แต่คงหมดหวังเพราะแต่ละต้นมีสภาพอย่างที่เห็น อยากให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือดูแล ทุกปีหน้าแล้งจะมีฝนเทียม แต่ปีนี้ไม่เห็นและไม่รู้ข่าวว่ามีฝนเทียม มูลค่าความเสียหายรวมเงินลงทุกซื้ออุปกรณ์การดูแลต้น ไถ ปลูก ต้นกล้าพันธุ์ ในเนื้อที่ 16 ไร่ เป็นเงิน 1,500,000 บาทนางเพ็ญพร กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ตนทำสวนตัวคนเดียวก็เหนื่อยแล้ว ต้องมาเจอกับวิกฤตฝนแล้งไม่มีน้ำใช้ หวังอีก 2 ปีข้างหน้าจะได้เก็บผลผลิต แต่ความหวังต้องสูญสลาย ยืนมองต้นทุเรียนที่ปลูกมากับมือแห้งเฉาตายไปต่อหน้าต่อตา