แพทย์แจงฝีดาษลิง ไม่ใช่โรคของเกย์ มีหลักฐานชัดเกิดได้ทุกกลุ่ม ซัดเหมารวม สร้างบาดแผลทางสังคม ไม่เป็นผลดีต่อการคุมโรค เหมือนคนจีนโดนว่าแพร่โควิด
วันที่ 29 ก.ค.2565 ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาล (รพ.) รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์เฟซบุ๊กให้ความรู้เพิ่มเติมและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโรคฝีดาษลิง ไม่ใช่โรคของเกย์ (gay) หรือ ชายรักชาย เพราะในแอฟริกานั้น โรคฝีดาษลิงเป็นโรคประจำถิ่น ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นสตรีและเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี มีเกิดจากการสัมผัสกับสัตว์ ถูกสัตว์กัด ข่วน รับประทานเนื้อสัตว์ป่าปรุงไม่สุก
การเหมารวมว่า โรคฝีดาษลิงเป็นโรคของชายรักชาย อาจทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “บาดแผลทางสังคม” ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการควบคุมโรค และเป็นผลลบกับกลุ่มชายรักชาย หรือ แอลจีบีทีคิว พลัส (LGBTQ+) โดยรวม ดังตัวอย่างที่เห็นชัดเจน จากกรณีของโรคโควิด-19 คือ การกล่าวว่า ชาวจีนเป็นผู้แพร่เชื้อ ทำให้เกิดการเกลียดชังและทำร้ายคนเอเชียในสหรัฐอเมริกาและยุโรป เป็นต้น
นอกจากนี้โรคฝีดาษลิง เป็นโรคติดต่อที่แพร่กระจายผ่านผิวหนังสู่ผิวหนัง จากสารคัดหลั่ง ของเหลว และวัสดุที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส เช่น ผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดตัว เป็นต้น ทั้งนี้ ไวรัสฝีดาษลิงนอกทวีปแอฟริกาขณะนี้มีการแพร่ระบาดคล้ายโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะพบการติดต่อในเด็กเล็กและสตรีด้วย
ที่มา มติชนออนไลน์