“ชัยวุฒิ” ชี้ “ปดิพัทธ์” ตัวตึงเกินไป ประธานสภาฯ ต้องเป็นกลาง ขอคนมีวุฒิภาวะ เจรจาทุกพรรคได้ ย้ำ “ลุงป้อม” ยังนิ่งไม่เก็บของ ไร้สัญญาณชิงนายกฯ ขอรอดูสถานการณ์ ไม่ยืนยันดีลลับ หาเสียง ส.ส. เพิ่ม แทนที่ สว.
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึง การทำงานของสภาหลังพรรคเพื่อไทยยอมถอยให้พรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งประธานสภาว่า จากที่ติดตามในข่าว ซึ่งมีการเสนอนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส. พิษณุโลกพรรคก้าวไกล อาจเป็นตัวตึงไปนิดนึง เพราะคนที่เป็นตัวตึงหรือสู้ให้พรรคมากๆ มาดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ จำเป็นต้องลดบทบาทลง เพราะทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมต้องมีความเป็นกลาง ต้องประสานงานกับทุกพรรค เมื่อสมาชิกมีข้อตกลงที่ไม่ลงตัว จะต้องประสานงาน ดังนั้น ประธานสภาฯจะต้องมีบารมี วุฒิภาวะในการพูดคุยกับทุกพรรคได้ จึงขอฝากให้คิดในเรื่องนี้ด้วย
ทั้งนี้ นายชัยวุฒิ มองว่า การจะเกิดปัญหาใด ในการประสานงานหรือไม่นั้น ไม่สามารถบอกได้ เพราะยังไม่เกิดจึงยังไม่รู้ แต่เท่าที่ดูแนวทางที่เกิดขึ้นในอดีต หากตึงเกินไปก็จะทำงานกันยาก จึงอยากได้คนที่ทำให้สภาเดินหน้าได้จะดีกว่า เพราะ อย่างที่ทราบดีว่าขณะนี้มีความขัดแย้งทางความคิดทางด้านการเมืองกันมาก โดยเฉพาะในเรื่องกฎหมายที่น่าจะเกิดการทะเลาะกันแน่นอน
ส่วนความอาวุโสของประธานสภาฯ จะมีส่วนด้วยหรือไม่นั้น นายชัยวุฒิ ระบุว่า ก็มีส่วนด้วยกันทุกเรื่อง ทั้งประสบการณ์ แนวทางการทำงานที่จะต้องพูดคุยกันได้เป็นเรื่องสำคัญ รวมถึงความเป็นกลางที่สำคัญไม่แพ้กัน ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลจะเสนอชื่อประธานสภาแข่งกับพระก้าวไกลหรือไม่นั้น นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เขาตกลงกันได้แล้วใช่ไหม ตนตามข่าวไม่ทัน
ส่วนกรณีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคร่วมรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่มีกระแสว่าจะเสนอชื่อพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แข่งกับฝ่ายเสียงข้างมาก นั้น นายชัยวุฒิ ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณจาก พล.อ.ประวิตร ยังนิ่งอยู่ คงต้องรอดูสถานการณ์ทางการเมืองต่อไป ท่าทีพรรคร่วมรัฐบาลและ MOU จะไปถึงการเลือกนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่
ส่วนกระแสข่าวว่าพล.อ.ประวิตร จะไม่ใช้เสียง ส.ว. มาสนับสนุนในการโหวตนายกรัฐมนตรี แต่จะหาเสียงจากพรรคการเมืองอื่นมาเติมแทนนั้ นนายชัยวุฒิ กล่าวว่า จะมาเติมให้เพื่ออะไร เพราะตอนนี้ยังไม่ได้มีการเจรจากัน ย้ำว่า พล.อ.ประวิตร ยังไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆมา ยังนิ่งมาก ยังไม่ได้เก็บของ ต้องรอดูสถานการณ์กันก่อน ทั้งนี้ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้วิเคราะห์ ว่าพล.อ.ประวิตร จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนเองก็ได้ให้การสนับสนุนอยู่แล้ว เชื่อว่าพล.อ.ประวิตร มีคุณสมบัติและ ความพร้อม แต่ขึ้นอยู่กับการลงมติทางการเมือง และสถานการณ์ในช่วงนั้น ขอให้รอดูกันต่อไป