ชนก จี้ ประยุทธ์ เร่งวางมาตราการป้องกันโควิด ควบคู่พลิกวิกฤตท่องเที่ยวไทย หลังจีนเปิดประเทศ เย้ยทำไม่ได้ก็ออกไป เดี๋ยวพท.ทำให้ดู
เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.65 น.ส.ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะโฆษกกรรมาธิการ (กมธ.) การท่องเที่ยว สภาฯ กล่าวว่า หลังจากที่จีนผ่อนคลายมาตรการโดยอนุญาตให้คนจีนเดินเที่ยวต่างประเทศได้ ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยตื่นตัวกับข่าวนี้เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประเทศไทยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากเป็นอันดับที่ 4 ของโลก นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเยือนมากที่สุดคือ คนจีน ประมาณ 10 ล้านคนต่อปี สร้างรายได้ให้กับไทยมากถึง 5.80 แสนล้านบาท หากปี 2566 เราสามารถต้อนรับคนจีนได้ประมาณ 5 ล้านคนเป็นอย่างน้อย คาดว่าน่าจะสร้างรายได้ได้กว่า 3 แสนล้านบาท และสามารถดึงแรงงานภาคการท่องเที่ยวที่มีกว่า 4.4 ล้านคนในช่วงก่อนโควิดกลับมาทำงานได้
น.ส.ชนก กล่าวว่า สำหรับความวิตกกังวลของพี่น้องประชาชนจากยอดผู้ติดเชื้อโควิดในจีนนั้น โดยธรรมชาติของคนจีนที่มีทัศนคติเรื่องสุขภาพที่ดีมานับพันปี ล้วนจะต้องระวังการแพร่ระบาดต่อกันโดยธรรมชาติ รัฐบาลไทยโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ มีหน้าที่ทำวิกฤตนี้ให้เป็นโอกาส เปลี่ยนความตระหนกให้เกิดเป็นความมั่นใจ เร่งวางมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ควบคู่กับการทำให้ประเทศไทยกลับมามีรายได้จากการท่องเที่ยวอีกครั้ง ให้เหมือนหรือเทียบเท่ากับในอดีต
“พรรคพท.ให้ความสำคัญกับสุขภาพของพี่น้องประชาชน ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญเรื่องการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ ที่กระทบถึงปากท้องของพี่น้องประชาชน เราไม่ละเลยกับปัญหาและข้อกังวลของพี่น้องประชาชน แต่ก็มองเห็นโอกาสจากทุกมิติ ดิฉันเชื่อมั่นว่าพรรคพท.สามารถสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนได้ เราจะสร้างประเทศไทยให้เป็นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของโลก สร้างงาน สร้างรายได้ และเทศกาลต่างๆ ในไทย เช่น สงกรานต์ ลอยกระทง จะต้องถูกนักท่องเที่ยวต่างชาติปักหมุดไว้ในปฏิทินของตน สิ่งต่างๆเหล่านี้หาก พล.อ.ประยุทธ์ทำไม่ได้ก็ยุบสภา หรือลาออกไป แล้วพท.จะเข้ามาทำให้ดู” น.ส.ชนก กล่าว