จุติ แจงยิบ โต้ตั้งคนสนิทนั่งบอร์ดการเคหะ ต้องผ่านการตรวจสอบ 4 ชั้น “ณัฐชา” สวนกลับ บอกหากหาข้อมูลได้แค่นี้ เอาเวลาไปเก็บของออกจากกระทรวงดีกว่า
วันที่ 20 ก.ค.2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล วันที่สอง โดยเมื่อเวลา 14.40 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ชี้แจงข้อกล่าวหาที่นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ถึงทำหน้าที่ไม่เหมาะสมและไม่เกิดประโยชน์ต่อการเคหะแห่งชาติว่า ที่บอกว่าตนทำงานมา 3 ปี ยังไม่เห็นผลงานอะไรเลย ตนมารับภาระกำกับดูแลการเคหะฯนั้น สถานะทางการเงินของการเคหะฯ มีหนี้สินรวม 35,419 ล้าน มีทรัพย์สิน 53,416 ล้านบาท ปัญหาคือ มีภาระจากโครงการเอื้ออาทรที่ขาดทุนสะสมถึง 38,843 ล้านบาท
นอกจากนั้น การเคหะฯ มีระบบการควบคุมภายในที่ไม่ดีเพียงพอ มีระบบการบริหารจัดการทรัพย์สินที่ไม่ครอบคลุมภารกิจอยู่ที่ดำเนินการธุรกิจอยู่ และเสนอให้แก้ไขระเบียบข้อบังคับ รวมทั้ง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พบปัญหาความผิดปกติเกี่ยวกับบริษัทลูกและได้รับผลประโยชน์ทับซ้อน คือ บริษัทเซ็มโก้
นายจุติ กล่าวว่า สตง.ตรวจสอบพบว่า มีการตั้งญาติของอดีตผู้บริหารการเคหะฯ มาเป็นผู้จัดการเซ็มโก้ และนำทรัพย์สินบางส่วนของการเคหะฯ ไปให้สมาคมเช่า แต่รายได้นั้นไม่ได้ส่งถึงการเคหะฯ สตง.ยังบอกว่าให้คณะกรรมการตรวจสอบเรื่องเหล่านี้และให้ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำความผิด ทั้งนี้ ได้ปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจเซ็มโก้ เพื่อให้สถานะทางการเงินเข้มแข็งตามข้อเสนอของสตง. รวมถึงให้ปรับปรุงสถานะทางการเงินให้ฟื้นตัวจากขาดทุนมาเป็นกำไรให้ได้ นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ได้ตั้งกรรมการปิดบัญชีเอื้ออาทร ซึ่งเป็นภาระให้รัฐบาลมานานมาก
นายจุติ กล่าวด้วยว่า คนไทยได้ยินเรื่องของการเอื้ออาทรมา 17 ปีแล้ว และพบว่านักธุรกิจที่มาหากินกับการเคหะฯ ได้ติดคุก 14 คน ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ รายงานว่าได้นำทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของการเคหะฯนั้น มาพัฒนาให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นให้ได้มากที่สุด จัดระบบการเช่าใหม่ โดยอาคารเช่าเหมาที่หมดสัญญาแล้วก็นำมาทำเอง นี่เป็นที่มา ซึ่งทำให้สมาชิกเชื่อว่ามีข้อมูลเด็ดว่าผู้บริหารของบริษัทการเคหะฯทำผิด ละเมิดหลักธรรมาภิบาล
ส่วนข้อกล่าวหาว่า ตนตั้งผู้ปั่นหุ้นมาเป็นกรรมการการเคหะฯ ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง เพราะการจะเลือกคณะกรรมการแต่ละคนนั้น ต้องผ่านการตรวจสอบ 4 ชั้น และมีกฎหมายชัดเจนว่าคนมีคดี ไม่สามารถเป็นกรรมการได้ ฉะนั้น ที่บอกว่าตั้งนักปั่นหุ้นมา เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรม รวมถึงที่เอ่ยชื่อย่อบุคคลที่ตั้งเป็นกรรมการและเป็นที่ปรึกษานั้น หากบุคคลนั้น เป็นคนเดียวกับที่ตนเข้าใจ ขอชี้แจงว่าเขาไม่ได้เป็นที่ปรึกษาของตน และไม่ได้เป็นที่ปรึกษาของรัฐวิสาหกิจที่ไม่ได้สังกัดของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
นายจุติ กล่าวอีกว่า ส่วนที่กล่าวหาว่าตนแอบอ้างสถาบันเพื่อทำโครงการนี้ ยืนยันว่าไม่เคยมีคำสั่ง ไม่เคยมีจุดหมายไปขอการกระทำแบบนี้ ยืนยันด้วยว่าพรรคตนไม่เคยมีคดีล้มเจ้า นอกจากนี้ ข้อกล่าวหาที่ว่าตนบีบบังคับให้อดีตผู้ว่าการเคหะฯ ลาออกเพราะไม่สนองนโยบาย ท่านเขียนจดหมายลาออกเพราะปัญหาสุขภาพ ตนไม่ได้บีบให้ลาออก ส่วนที่หยิบข่าวลือว่าเคหะสุขประชานั้นใช้เวลา 200 ปีกว่าจะคืนทุน ซึ่งช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้ขอดูโมเดลจากผู้ว่าการเคหะฯ ซึ่งท่านบอกว่าไม่มี แต่ถึงมีก็ไม่ผ่าน เพราะสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติคงไม่อนุมัติ
แต่สิ่งที่มีคือ การเปลี่ยนวิธีการทำงานและวิธีคิดของการเคหะฯ จัดทำกำไรเชิงพาณิชย์เพื่อคืนกำไรให้สังคม จากที่ขายบ้านเพื่อเอากำไรมาเปลี่ยนเป็นสร้างบ้านให้เช่า อยู่ได้ตลอดชีวิต ราคาถูกกว่าตลาด ซึ่งไม่ใช่แค่การสร้างบ้าน แต่เป็นการสร้างบ้านสร้างอาชีพ และพัฒนาคุณภาพชีวิต จึงเป็นเรื่องใหม่ที่การเคหะฯไม่เคยทำมาก่อน แต่รัฐบาลชุดนี้ได้ทำ ทั้งนี้ สิ่งที่รัฐบาลนี้ทำไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนและตั้งใจทำให้เซ็มโก้เคหะฯ เข้มแข็ง ประชาชนได้ประโยชน์
จากนั้นนายณัฐชา ลุกขึ้นโต้กลับการชี้แจงของนายจุติว่า ราว 20 ชั่วโมงที่นายจุติ หายไปจากสภาแห่งนี้ และได้บอกตนว่าอย่าหนีตั้งแต่เมื่อคืน แล้วท่านก็เดินต๊อกๆออกไป 20 ชั่วโมงเตรียมข้อมูลชี้แจงมา 20 กว่าข้อ แต่ข้อมูลทั้งหมดที่หายไปนั้น ตนคิดว่าท่านเอาเวลาไปเก็บของออกจากกระทรวงดีกว่า ถ้าเกิดหายไปแล้วได้ข้อมูลมาเท่านี้