จีนยัวะ ไบเดน พูดอีกครั้ง ทหารสหรัฐจะปกป้องไต้หวัน หากปักกิ่งโจมตี

วันที่ 19 ก.ย. เอเอฟพี และ บีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา กล่าวอีกครั้งว่า สหรัฐจะปกป้องไต้หวันในกรณีที่จีนโจมตี หลังตอบคำถามในการให้สัมภาษณ์รายการ 60 นาที ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสที่ออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ก.ย. ว่า ทหารสหรัฐจะปกป้องไต้หวันหรือไม่ นายไบเดนตอบ “ใช่ หากมีการโจมตีอย่างไม่เคยมีมาก่อน”

ความคิดเห็นของนายไบเดนยังมีความชัดเจนที่สุดในการให้คำมั่นที่จะแทรกแซงทางทหารของสหรัฐ ทำให้ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า สหรัฐจะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างเป็นทางการที่จะไม่ปฏิบัติการทหารบนเกาะไต้หวัน

“ประธานาธิบดีสหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ รวมถึงในกรุงโตเกียวเมื่อเดือนพ.ค.ปีนี้ และชี้แจงว่านโยบายไต้หวันของสหรัฐไม่ได้เปลี่ยนแปลง ซึ่งยังเป็นความจริง” ทำเนียบขาวระบุ

นับเป็นครั้งที่สามแล้วที่ประธานาธิบดีไบเดนที่ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับไต้หวันเกินกว่าจุดยืนทางการสหรัฐตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้วซึ่งเป็นครั้งแรก และครั้งต่อมาคือเดือนพ.ค.ปีนี้ในญี่ปุ่นระหว่างการเยือนเอเชียเป็นครั้งแรกในฐานะประธานาธิบดี ทำให้ทำเนียบขาวรีบแถลงการณ์แก้ต่างว่านโยบายเกี่ยวกับไต้หวันของสหรัฐจะไม่เปลี่ยนแปลงเช่นกัน

ทั้งนี้ นโยบายเกี่ยวกับไต้หวันของสหรัฐมีความคลุมเครือเชิงกลยุทธ์มาตลอด ซึ่งไม่ได้ให้คำมั่นที่จะปกป้องไต้หวัน แต่ไม่ได้ตัดเลือกทางเลือกดังกล่าวเช่นกัน

ขณะที่นายเหมา หนิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวว่า ความคิดเห็นล่าสุดของนายไบเดนละเมิดคำมั่นสัญญาสำคัญที่สหรัฐเคยให้อย่างร้ายแรงที่จะไม่สนับสนุนเอกราชของไต้หวัน และเป็นการส่งสัญญาณผิดพลาดร้ายแรงถึงกองกำลังแบ่งแยกดินแดนของไต้หวัน

“เรายินดีที่จะใช้ความพยายามอย่างจริงใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพื่อมุ่งสู่การรวมชาติอย่างสันติ ขณะเดียวกัน เราจะไม่ยอมกิจกรรมใดๆ ที่มุ่งเป้าแบ่งแยกประเทศ และสงวนทางเลือกที่จะใช้มาตรการที่จำเป็นทั้งหมด” โฆษกกระทรวงต่างประเทศกล่าว

อย่างไรก็ตาม นายไบเดนยังย้ำในการให้สัมภาษณ์ว่า สหรัฐไม่สนับสนุนเอกราชของไต้หวัน “มีนโยบายจีนเดียวและไต้หวันตัดสินใจเกี่ยวกับเอกราชด้วยตัวเอง เราไม่ได้เคลื่อนไหว ไม่สนับสนุนให้ไต้หวันเป็นเอกราช นั่นคือการตัดสินใจของพวกเขา (ไต้หวัน)”

ด้านกระทรวงต่างประเทศของไต้หวันกล่าวถึงความคิดเห็นล่าสุดของนายไบเดน โดยยินดีกับความมุ่งมั่นด้านความมั่นคงของรัฐบาลสหรัฐที่มีต่อไต้หวัน และจะยังกระชับหุ้นส่วนด้านความมั่นคงอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลสหรัฐต่อไป