จำกันได้ไหม? น้องใยไหม เจ้าของประโยคดัง “แม่…หนูเกลียดผู้ชาย” โตแล้วสวยมาก คัมแบ๊กวงการเต็มตัว แฟนๆ เชียร์เป็นนางเอก
ถ้าเอ่ยชื่อ น้องใยไหม ชินารดี อนุพงษ์ภิชาติ นักแสดงเด็กวัย 3 ขวบ เจ้าของประโยคเด็ด “แม่…หนูเกลียดผู้ชาย” ในโฆษณาดัง เชื่อว่าหลายคนยังพอจำกันได้กับภาพของเด็กน้อยผมหน้าม้าแก้มน่าฟัด ล่าสุดเจ้าตัวหวนกลับสู่วงการเต็มตัวอีกครั้งในวัย 16 ปี ที่หลายคนต้องตะลึงกับความสวยสะพรั่ง
งานนี้ “ข่าวสดบันเทิงออนไลน์” มีโอกาสได้พูดคุยกับ น้องใยไหม ถึงความฮอตในวัยเด็ก ช่วงที่หายหน้าไป และการกลับสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง แถมด้วยเรื่องหัวใจที่หนุ่มๆ รอฟังให้ดี
ย้อนชีวิตตอนเข้าวงการใหม่ๆ? “ไหมเข้าวงการอายุ 3 ขวบค่ะ ที่เข้าวงการมาได้ก็เหมือนปกติกับทุกคนที่ได้ไปเจอโมเดลลิ่ง แล้วเราก็ต้องแคสต์งานมาเรื่อยๆ ช่วงนั้นก็เหมือนกับได้เก็บเป็นประสบการณ์เลยค่ะกว่าจะมาถึงทุกวันนี้ได้”
“ตอนนั้นเริ่มต้นด้วยงานโฆษณา ตัวที่ทุกคนจำได้จะเป็นเบบี้มายด์ ซึ่งเป็นโฆษณาตัวที่2 ที่ทำให้ทุกคนได้รู้จักไหมมากขึ้น มีประโยคที่พูดว่า “แม่…หนูเกลียดผู้ชาย” ถ้าเกิดว่ามีคนถามว่าน้องใยไหมไหนเนี่ย หนูก็จะบอกว่าน้องใยไหมที่พูดว่า แม่…หนูเกลียดผู้ชาย แล้วเขาก็จะบอกว่าอ๋อ! จำได้แล้ว”
ละครแจ้งเกิด? “จะเป็นเรื่อง ลิขิตเสน่หา ค่ะ เล่นเป็น ไข่ตุ๋น เด็กแสบมากในเรื่องนั้น จะบอกว่าไข่ตุ๋นนี่เป็นเรื่องแรกๆ เลยที่ไหมได้เล่น รู้สึกดีใจมากๆ ที่มีคนรู้จักเราในนามที่เราได้เล่นในละครด้วย เพราะว่าก่อนหน้านั้นคนจะรู้จักไหมแค่จากในโฆษณาค่ะ แล้วตอนนั้นก็จะมีแต่คนเรียกชื่อไข่ตุ๋นๆๆ เคยคุยเล่นกับแม่ว่าจะเปลี่ยนชื่อเป็นไข่ตุ๋นแล้วนะ ไม่ชื่อใยไหมแล้ว”
“จะบอกว่าช่วงเด็กๆ นี้เล่นละครเยอะมากๆ เลย โดยเฉพาะช่วงประถม ตอนนั้นมีเวลาไปเรียนแค่ 1-2 วันต่ออาทิตย์เอง ไหมเคยแอบไปเสิร์ชชื่อตัวเองในวิกิพีเดียก็แบบโห! เราเล่นละครเยอะขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย เอาจริงๆ ตัวเองก็จำไม่ได้เหมือนกันว่าเล่นเรื่องอะไรมาบ้าง”
หายหน้าไปไหนช่วงหนึ่ง? “ช่วงที่ไหมเรียนอยู่ม.1 ม.2 คือไหมว่ามันน่าจะเป็นกับแทบทุกคนที่เป็นดาราตั้งแต่เด็ก จะต้องมีช่วงหนึ่งที่หายไป อาจจะเป็นด้วยคาแร็กเตอร์ด้วย ช่วงนั้นมันอยู่ในช่วงที่จะโตก็ไม่โต จะเด็กก็ไม่เด็ก จะเล่นเป็นลูกก็โตไปแล้ว จะไปเล่นเป็นน้องสาวนางเอกก็ยังเด็กไป”
“ตอนนั้นก็เลยบอกคุณแม่ว่างั้นขอเรียนก่อนเลยแล้วกัน ไหนๆ หยุดรับงานพอดีจะได้เต็มที่กับการเรียน พอเริ่มมาอยู่ม.4 ม.5 ก็เริ่มมีงานเข้ามา ถ้านับดีๆ หายไปเกือบ 3 ปีเลย ไม่มีละคร ไม่มีซีรีส์เลยเพราะว่าขอพักด้วยค่ะ”
กลับมาเรียกว่าเป็นสาวสวยเลย? “ตอนนี้อายุ 16 ค่ะ จะบอกว่าในรูปมันดูโตเฉยๆ แต่จริงๆ ก็คือยังแบบง้องแง้งอยู่ ถ้ามาเจอไหมตัวจริงก็ยังเป็นเด็กน้อยเหมือนเดิมเลย จริงๆ อย่างแรกคือต้องขอบคุณทุกคนที่บอกว่าไหมสวย แต่ไหมรู้สึกว่าตัวเองก็ไม่ได้สวยขนาดนั้นหรอก เหมือนเด็กธรรมดาทั่วไปนี่แหละ”
“แต่ว่าเพราะเราอยู่ในวงการด้วยหรือเปล่าคนก็เลยคิดว่าวันนี้โตขึ้นเยอะ แล้วก็เหมือนกับว่าหลายคนจะติดคาแร็กเตอร์ของไหมตอนเด็กๆ มาเจออีกทีหนึ่งก็แบบอุ๊ย! โตแล้ว แต่จริงๆ ก็คือไม่ได้โตขนาดนั้นหรอกค่ะ ความที่ทุกคนมีภาพจำในตอนที่เรายังเด็กอยู่ โผล่มาอีกทีเป็นอย่างนี้ก็เลยแบบ…ผมหน้าม้าหาย หน้าไม่มีเบบี้แฟต เลยดูโตค่ะ”
คนเชียร์เป็นนางเอก? “เยอะอยู่นะคะ นอกจากจะมีพี่ๆ แฟนคลับ หรือผู้ใหญ่หลายๆ คนที่เชียร์ให้เราเป็นนางเอก จริงๆ คนรอบข้างเราก็บอกด้วยว่าเนี่ยน่าจะไปเป็นนางเอกนะ แต่ไหมก็คิดว่าเรายังอยากเก็บประสบการณ์ไปเรื่อยๆ แต่สมมติถ้ามีผู้ใหญ่ยื่นโอกาสเข้ามา เราก็พร้อมที่จะรับโอกาสนั้นเสมอค่ะ”
ตอนนี้เรียกว่ากลับสู่วงการเต็มตัวแล้วใช่ไหม? “ใช่ค่ะ ตอนนี้ก็คือกลับเข้ามาเต็มตัวแล้ว ไหมอยู่ในสังกัดช่องวัน31 ค่ะ แต่ว่าก็ยังเป็นเหมือนนักแสดงฝึกหัดอยู่ค่ะ”
ย้อนกลับไปดูตัวเองตอนเด็กแล้วรู้สึกยังไงบ้าง? “จริงๆ คุณแม่ชอบแซวว่าเอาเด็กคนนี้กลับมาได้ไหม เด็กคนนี้หายไปไหน แต่จริงๆ คือจะบอกว่าหลงตัวเองได้ไหมเนี่ย ไหมดูรูปตัวเองตอนเด็กแล้วก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้มันน่ารักนะเนี่ย น่ารักตั้งแต่เกิดเลย(หัวเราะ) เกิดมาตัวอ้วนเชียว มันน่ารักดี”
อัพเดตผลงาน? “ที่สามารถเปิดเผยได้ตอนนี้ก็จะมีซีรีส์วายเรื่อง เลิฟ@นาย Oh! my Sunshine Night เล่นเป็น ใบบัว เป็นเพื่อนของพระเอก แล้วก็มีซีรีส์อีกเรื่องหนึ่งแต่ยังเปิดเผยไม่ได้ต้องรอติดตามกันต่อไป นอกจากนี้ก็จะมีภาพยนตร์ที่ฉายทางเน็ตฟลิกซ์ อันนี้ก็ยังเปิดเผยไม่ได้เหมือนกัน ส่วนภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งคือ 16 ห้าว 19 เดือด จะเข้าฉายประมาณต้นปีหน้าค่ะ”
อัพเดตหัวใจนิดหนึ่ง สวยขนาดนี้มีหนุ่มๆ มาขายขนมจีบบ้างหรือยัง? “ก็มี แต่คือเราก็บอกทุกคนว่าโอเคเราเป็นเพื่อนกันนะ เราไม่ได้เป็นมากกันกว่านี้ เพราะจริงๆ ไหมก็ยังไม่ได้รู้สึกว่าอยากรีบมีด้วย แต่คือคุณแม่ก็ไม่ได้ปิดนะคะ คุณแม่บอกว่าคุยได้ แต่ต้องอยู่ในสายตาคุณแม่ด้วย ช่วงนี้เราก็เลยโฟกัสที่ตัวเองมากกว่า ยังไม่ได้โฟกัสเรื่องอื่น”
สเป๊กที่ชอบ? “เราทุกคนจะต้องดูจากหน้าตาก่อนเป็นอย่างแรกใช่ไหมคะ ถ้าหน้าตาไม่ผ่านก็นิดหนึ่งๆ แต่จริงๆ เวลาไหมคุยกับใครจะดูที่นิสัยมากกว่าว่าเราเข้ากับเขาได้เปล่า สเป๊กไหมมันไม่ค่อยตายตัว แค่ขอคนไม่ขี้จุกจิกแล้วกัน ไหมเป็นคนโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง พอเวลามีคนมาจุกจิกก็จะแบบไม่เอาได้ไหม เอาแบบสบายๆ ดีกว่า ขอเว้นระยะให้ระหว่างกันบ้างค่ะ”