ตำรวจจับหนุ่มขอนแก่น ขี่จยย. ตระเวนลักทรัพย์ ร้านชำในอ.บ้านไผ่ สารภาพ หาเงินซื้อเหล้ากิน เพราะไม่กล้าขอเงินเมียไปซื้อ
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 21 มี.ค. 2566 พ.ต.อ.วิษณุ จันปุ่ม ผกก.สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.ท.มนตรี สุปะตำ รองผกก.(สส.) สภ.บ้านไผ่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.บ้านไผ่ ร่วมกันจับกุม นายวีรเดช ชาว ต.นางาม อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ในข้อหา ลักทรัพย์หรือรับของโจร พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ ซัมซุง จำนวน 1 เครื่อง หมวกกันน็อก 1 ใบ และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อสกูปปี้ไอ สีแดง ทะเบียน ขอนแก่น และเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ
พ.ต.อ.วิษณุ กล่าวว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากนายนายสุข อายุ 68 ปี ชาว ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ผู้เสียหาย ว่า ขณะขายของอยู่ที่ร้านของชำของตัวเอง ถูกคนร้ายลักลอบเข้าไปลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง สีน้ำตาล จำนวน 1 เครื่อง โดยสงสัยว่า คนร้ายจะเป็นชายรูปร่างท้วมอายุประมาณ 35-40 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์แบบหญิงสีแดง ไม่ทราบทะเบียน
พนักงานสอบสวนประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่ ตรวจที่เกิดเหตุและตรวจสอบกล้องวงจรปิดในร้านและใกล้ที่เกิดเหตุ จนทราบว่า คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สกูปปี้ไอ สีแดง โดยหลังก่อเหตุจะขับขี่รถผ่านในเส้นทางหลังโรงงานทำขนมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่บ้านไผ่ม.3 ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จึงได้สืบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ และเจอตัวนายวีรเดช ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ ที่มีทะเบียนตรงกับรถคันที่คนร้ายใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุลักทรัพย์ ขับขี่อยู่บนถนนหลังโรงงานทำขนมปัง ในพื้นที่บ้านไผ่ ม.3 จึงได้ควบคุมตัวไว้ และนำตัวไปสอบสวน พร้อมยึดรถคันดังกล่าวไปตรวจสอบด้วย
ผกก.สภ.บ้านไผ่ กล่าวต่ออีกว่า จากการสอบสวน คนร้ายให้การรับสารภาพว่า อาศัยอยู่กับภรรยาและแม่ยายที่บ้านพักไม่มีเลขที่ โดยภรรยาทำงานในโรงงานขนมปัง ส่วนตนเองไม่มีงานทำ แต่ชอบดื่มสุรา จะขอเงินภรรยามาซื้อสุราก็ไม่กล้า จึงได้ลงมือลักทรัพย์ เงินสดในร้านค้าขายของชำตามหมู่บ้าน จะได้เงินสดครั้งละ 50-200 บาท นำไปซื้อสุรา 40 ดีกรีดื่ม
โดยล่าสุดได้เข้าไปลักทรัพย์ในร้านขายของชำของนายสุข แต่ในตะกร้าไม่มีเงิน พบเพียงโทรศัพท์มือถือจึงหยิบเอาไป และรีบออกจากร้าน และยังไม่ได้นำไปขายเพราะถูกตำรวจตามจับกุมได้ก่อน
ผู้ต้องหายังรับสารภาพอีกว่า ได้ก่อเหตุลักทรัพย์เงินสดในร้านค้าขายของชำในพื้นที่มาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 จนถึงปัจจุบัน ลงมือในร้านค้ามาแล้วหลายร้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุตามคำให้การของผู้ต้องหา พบว่า เกิดเหตุขึ้นจริง แต่เจ้าของร้านไม่มาแจ้งความ เพราะว่าเป็นเงินเล็กน้อย และไม่อยากเสียเวลาเดินทางไปแจ้งตำรวจ จึงปล่อยผ่าน
กระทั่งตำรวจจับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้ ให้การรับสารภาพ จึงได้ทราบจุดเกิดเหตุ อย่างไรก็ตามภายหลังถูกจับกุมและตำรวจชุดสืบสวนทำการสอบสวนเรียบร้อยแล้ว ได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.บ้านไผ่ ดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร จากนั้นจะได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป