จริงหรือ? สาวเป่า “เมาแล้วขับ” ขอตรวจเลือดยันไม่ได้ดื่ม แค่ “จูบคนเมา” ผลออกมา ตร.อึ้ง!!!

Home » จริงหรือ? สาวเป่า “เมาแล้วขับ” ขอตรวจเลือดยันไม่ได้ดื่ม แค่ “จูบคนเมา” ผลออกมา ตร.อึ้ง!!!
จริงหรือ? สาวเป่า “เมาแล้วขับ” ขอตรวจเลือดยันไม่ได้ดื่ม แค่ “จูบคนเมา” ผลออกมา ตร.อึ้ง!!!

ไขข้อข้องใจ จูบคนดื่มเหล้า ทำให้เมาได้ไหม? หลังสาวหวิดโดนจับ “เมาแล้วขับ” รีบตรวจเลือดยันไม่ได้ดื่ม แค่ “จูบ” แฟนที่เมาเหล้า ผลออกมารอดจริงๆ

ปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายส่วนใหญ่ขับออกทางปัสสาวะ ส่วนที่เหลือขับออกทางเหงื่อและการหายใจ เมื่อคนเราดื่มแอลกอฮอล์ก็จะมีแอลกอฮอล์อยู่ในลมหายใจและน้ำลาย โดยเฉพาะของเหลวที่ไหลย้อนจากกระเพาะสู่ปาก จะมีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ค่อนข้างสูง

เมื่อ “จูบคนเมา” เป็นเวลานาน สามารถ “ส่งต่อ” ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ของคนเมาได้ โดยช่องปากยังปนเปื้อนแอลกอฮอล์จากน้ำลายของคนเมา หรือน้ำย่อยในกระเพาะอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ปริมาณแอลกอฮอล์ที่เข้าสู่ช่องปากและทางเดินหายใจของผู้จูบมีความเข้มข้นต่ำ จากนั้นจะถูกเผาผลาญอย่างรวดเร็วในตับ จึง “ไม่ทำให้เกิดอาการมึนเมา”

ดังนั้น การจูบคนที่เพิ่งเมาสุราจึงมีโอกาส “ติด” ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ได้ แต่กรณีนี้พบได้น้อยมาก เพราะฉะนั้นหากจูบคนที่เมา แล้วเป่าวัดแอลกอฮอล์ในลมหายใจ ได้ค่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด สามารถขอตรวจเลือดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น

เราไม่สามารถคำนวณได้อย่างแน่ชัดว่า หลังจากรับประทานอาหารที่มีแอลกอฮอล์ ต้องใช้เวลานานเทาไหร่ปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจและเลือดจะหายไป ทั้งนี้ โดยเฉลี่ยทุกๆ ชั่วโมงร่างกายจะกำจัดแอลกอฮอล์ออกจากเลือดได้ 15 มิลลิกรัม ยิ่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเท่าไร ร่างกายก็จะต้องใช้เวลาในการเผาผลาญนานขึ้นเท่านั้น

มีเคสตัวอย่างในประเทศจีน เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2020 ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งตรวจพบความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในลมหายใจเกินขีดจำกัดที่กฎหมายกำหนดขณะขับรถ อย่างไรก็ตาม เธอยืนกรานว่าไม่ดื่มแอลกอฮอล์ และผลการทดสอบความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือดเป็น “ศูนย์”

โดยหญิงสาวรายดังกล่าวอธิบายว่า ก่อนหน้านี้เธอได้ขับรถไปรับแฟนหนุ่มซึ่งดื่มแอลกอฮอล์จนมึนเมา และทั้งคู่ก็จูบกันเป็นเวลานานก่อนที่เธอจะขับรถออกมา

จากผลการตรวจเลือดและคำอธิบายของหญิงสาว ทำให้ตำรวจจราจรเชื่อว่าทั้งสองคนอาจจูบกันเป็นเวลานาน ทำให้ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในปากของผู้หญิงเกินมาตรฐาน ซึ่งเป็นกรณีที่ไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าผู้ชายไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์เกิน 2 หน่วยต่อวัน ผู้หญิงไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์เกิน 1 หน่วยต่อวัน และไม่ดื่มเกิน 5 วันต่อสัปดาห์

โดยแอลกอฮอล์ 1 หน่วย เทียบเท่ากับแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 10 กรัมที่มีอยู่ในสารละลายสำหรับดื่ม ซึ่งคิดเป็นประมาณ 3/4 ของขวด หรือเบียร์กระป๋องขนาด 330 มล. (5%) หรือเบียร์สดหนึ่งแก้วขนาด 330 มล. หรือแก้วขนาด 100 มล. ไวน์ (13.5%) หรือเหล้าหนึ่งแก้ว 30 มล. (40%)

  • ลูกชายคนเดียวตายไป 15 ปี จู่ๆ แม่ได้รับสาย ตร.แจ้งลูกเมาแล้วขับ รู้ความจริงยิ่งจุกอก
  • รู้ไว้ไม่น่าอาย! จดและจำ 6 สิ่งที่ต้องทำทุกครั้งหลังมี Sex เพื่อเซฟสุขภาพตัวเอง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ