จบแล้ว! "นาย ณภัทร" แถลงข่าว เลิก "ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก" เหตุผลสุดช้ำ

Home » จบแล้ว! "นาย ณภัทร" แถลงข่าว เลิก "ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก" เหตุผลสุดช้ำ
จบแล้ว! "นาย ณภัทร" แถลงข่าว เลิก "ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก" เหตุผลสุดช้ำ

นาย ณภัทร พระเอกหนุ่มชื่อดัง วัย 28 ปี ลูกชายอดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ หมู-พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวแบบเปิดใจหมดเปลือก! หลังสถานะความรักกับหวานใจดีกรีนางเอก ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ตกอยู่ท่ามกลางความสงสัยของใครหลายคนว่า สรุปแล้วทั้งคู่เลิกกันจริงอย่างที่มีข่าวลืออกมาหรือเปล่า!?

ซึ่งการออกมาพูดของ นาย ณภัทร ในครั้งนี้ เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า…

 

สาเหตุที่ผมออกมาพูดในวันนี้ เพราะว่าผมอยากให้ทุกคนได้ฟังจากปากผมเอง เนื่องจากช่วงที่ผ่านมากระแสข่าวต่างๆ มันค่อนข้างกระทบจิตใจทุกคนที่ผมรัก ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวของผม คุณแม่ หรือแม้กระทั่งครอบครัวของเฟิร์น ดังนั้นผมจึงอยากให้ทุกคนได้ฟังจากปากผมเอง

จากสิ่งที่เป็นกระแสข่าว ก็ต้องพูดตามตรงว่า ตอนนี้ผมกับเฟิร์นเราได้ทำความเข้าใจและทบทวน จนได้ข้อสรุปว่า ถอยกลับมาเป็นเพื่อนกัน ซึ่งมันเป็นอะไรที่น่ารักนะครับ เราไม่ได้โกรธ ไมได้เกลียด เรามีแต่ความหวังดี ความจริงใจ มีแต่ความหวังดีที่มอบให้กันตลอด

สาเหตุเกิดจากอะไร
อย่างแรกผมต้องบอกก่อนว่า เราสองคนให้ความสำคัญเกี่ยวกับงานและหน้าที่ของเราเป็นหลัก ฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็แล้วแต่ เราก็มักจะรู้สึกว่าหน้าที่ของเราต้องมาก่อนเสมอ ซึ่งอะไรที่มันกระทบกับหน้าที่เราก็จะพูดคุยกันตลอด และจากสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนมันก็มีข่าวอะไรออกไปหลายๆ อย่างด้วย ทั้งเรื่องที่หลายคนเพ่งเล็งไปที่คุณแม่ของผม ซึ่งผมก็ต้องพูดตามตรง ณ ตรงนี้เลยนะครับ ผมรู้สึกว่าที่ผ่านมามันเป็นการจัดการบริหารของตัวผมเอง ดังนั้นมันไม่มีใครที่ต้องโทษเลย นอกจากตัวผมที่ผ่านมาผมบาลานซ์ความสัมพันธ์ได้ไม่ดี

จุดไหนที่ทำให้คิดว่าควรต้องลดความสัมพันธ์
บอกไม่ได้หรอกครับว่าตอนไหน แต่ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันอยู่บนพื้นฐานของความรัก และความหวังดีที่มอบให้กันตลอด

ได้พยายามหาวิธีที่จะทำให้ความสัมพันธ์มันไปต่อบ้างไหมในช่วงที่ผ่านมา
ผมเชื่อว่าบางเรื่องมันอาจจะไม่ใช่เรื่องของเหตุผลแล้วแหละ แต่ตราบใดที่มันอยู่บนพื้นฐานของความรัก ความหวังดี ความเข้าใจ ทุกอย่างมันเป็นเรื่องของเวลาแล้วแหละครับ

ยอมรับว่าเราจัดการเวลาให้กับครอบครัวและใบเฟิร์นได้ไม่ดีพอ
ต้องบอกก่อนว่า ครอบครัวของผมก็เหมือนกับครอบครัวปกติ เราอยู่กันสองคนมาตั้งแต่เด็ก และคุณแม่ของผมก็เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เก่งมากๆ เลี้ยงผมแบบสู้ชีวิตมาก ฉะนั้นการที่มันมีปัญหาเกิดขึ้นในครอบครัวมันก็เป็นเรื่องปกติเหมือนครอบครัวทั่วไป ตัวผมเองก็มีปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งแก้ได้บ้าง และแก้ไม่ได้บ้าง แต่มันเกิดขึ้นมานานแล้วแหละครับ และผมก็มองว่ามันเป็นเรื่องปกติ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมจะไม่ขอลงรายละเอียด และก็ขอให้มันเป็นสิ่งที่จะไม่กระทบกับครอบครัวผม รวมถึงเรื่องของสภาพจิตใจละกันครับ

เราสองคนไม่สามารถไปกันต่อได้แล้วจริงๆ ใช่ไหม
มันไม่ใช่ไปต่อไม่ได้ครับ แต่เรามีแต่ความหวังดี มีแต่ความจริงใจให้กัน เฟิร์นเป็นผู้หญิงที่น่ารักมากๆ ถ้าได้รู้จักเขาดี เขาเป็นผู้หญิงที่กตัญญูกับครอบครัวมาก เขาเอาความรู้สึกคนอื่นมาก่อนตัวเองเสมอ และก็เขาเป็นคนเก่ง เขามีแต่ความจริงใจมอบให้ทุกคน และผมโชคดีที่ได้รู้จักกัน ได้เป็นเพื่อนกัน ได้ลองคบกัน สุดท้ายมันก็เป็นความรู้สึกดีๆ เป็นความจริงจำดีๆ ทุกช่วงเวลามันเป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆ น่ารักมากๆ และตอนนี้ผมก็รู็สึกว่า เราได้พูดคุยกันอย่างจริงใจ เรามีแต่ความหวังดี มีแต่ความหวังดีจริงๆ ไม่มีคำไหนนอกจากคำนั้นเลย ส่วนตอนนี้เราแค่ต้องถอยกลับมาเป็นเพื่อน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าในอนาคต หรือแม้กระทั่งตอนนี้ เราจะไม่ส่งกำลังใจให้กัน หรือคุยกันเลย

การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นก่อนหรือหลังกลับจากทริปล่าสุด
หลังครับ แต่ผมขอไม่ลงดีเทลเรื่องไทม์ไลน์ละกันนะครับ

เรื่องไหนเปราะบางที่สุด
ไม่มีอะไรเปราะบางนะครับ เพราะอย่างที่ผมบอก ทุกอย่างตั้งอยู่บนความเข้าใจ เรามีแต่ความปราถนาดีให้กันตลอด

ต้องตัดสินใจในช่วงที่กำลังมีความสุข
มันอาจจะไม่มีเหตุผล เพียงแค่เราอยากเห็นคนที่เรารักมีความสุข เราอยากเห็นคนที่เรารักมีแต่รอยยิ้ม ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติของชีวิต มันมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอยู่เสมอ ฉะนั้นก็อยู่ที่ใจเราแล้วแหละว่า เราจะปรับตัวเข้าหามันยังไง และเราจะยอมรับมันได้ไหม

สภาพจิตใจของเราโอเคไหม
ผมเชื่อว่าถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก็คงไม่มีใครโอเคอยู่แล้วแหละ มันเป็นปกติของมนุษย์เนอะ ที่เราจะต้องเรียนรู้กับความเสียใจ หรืออะไรต่างๆ แต่ทุกอย่างมันก็คือการเติบโตของคนคนหนึ่งที่จะต้องเจอ และผมเองก็โชคดีที่มีกำลังใจดีทั้งจากคนรอบข้างฝั่งผม และจากคนรอบข้างฝั่งเฟิร์น ซึ่งมันเป็นอะไรมีค่ามากๆ เลยครับ

การดูแลความรู้สึกของเราในช่วงเวลานี้
ก็ต้องเป็นเรื่องของเวลาครับ ทุกคนต้องมีเวลาให้ตัวเองต้องค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทบทวน ค่อยๆ ยอมรับ ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติของชีวิตมากๆ

คุยกับใบเฟิร์นและคุณแม่แล้วใช่ไหม ทั้งสองคนเข้าใจในการตัดสินใจครั้งนี้
คุยครับ ก็เข้าใจกันดีครับ

เป็นการจบความสัมพันธ์
ไม่เรียกว่าจบความสัมพันธ์นะครับ เพียงแต่เราถอยกลับมาเป็นเพื่อนกัน โดยที่เราไม่ได้โกรธ หรือไม่ได้เกลียดกัน เรายังส่งกำลังใจให้กัน เรายังเป็นเพื่อนที่มีความหวังดีให้กัน ให้กำลังใจกันตลอด

ใบเฟิร์นเขารู้ไหมว่าวันนี้เราจะออกมาพูด
รู้ครับ เราก็ส่งกำลังใจให้กัน

วันเวลาอาจจะช่วยให้ทุกอย่างกลับมาดีขึ้น
มันคือเรื่องของอนาคต และผมก็เชื่อว่าใครก็ตอบไม่ได้ ตัวผมเองก็ตอบไม่ได้ แต่ว่า ณ ตอนนี้เราขอทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด และเราต้องให้สเปซต่อกันและกัน เพราะมันเป็นสิ่งที่สำคัญมากในความสัมพันธ์

มือที่สาม
เรื่องนี้ผมอยากจะพูดเลยนะครับว่า ไม่มี ไม่มีแน่นอน ตลอดระยะเวลาที่เราคบกันมันอบอุ่นมากเลย และผมก็ไม่อยากให้ใครเอาเรื่องนี้ไปวิพากษ์วิจารณ์กันต่อ ผมบอกได้เลยครับว่าไม่มีแน่นอน

กระแสข่าวมีผลกระทบต่อเราขนาดไหน
มันเป็นเรื่องปกติของอาชีพผม และทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะอ่านข่าว มีสิทธิ์ที่จะใช้วิจารณญาน แต่ผมก็เชื่อนะว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นถ้าหากเรามีทัศคติที่ดี มันจะโชว์ให้เห็นเลยว่าเรามองเหตุการณ์หรือสิ่งที่เกิดขึ้นยังไง

ในฐานะคนกลางมันยากลำบากยังไง
ผมเชื่อว่าทุกคนต้องมีช่วงยากลำบากในชีวิต เกิดเป็นมนุษย์มันต้องมีช่วงที่เราทั้งทุกข์และสุข แต่ผมเชื่อว่าการที่เราเจอเรื่องยากลำบาก บางครั้งมันก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะมันกำลังบ่งบอกว่าเราได้เติบโตขึ้น

ในวันที่เรากำลังมีความสุขที่สุด เรากลับต้องลดสถานะ
ที่ผ่านมาผมไม่เคยรู้สึกเสียดายอะไรเลย เราสองคนใช้เวลาได้คุ้มค่าทุกวันทุกวินาทีเลยจริงๆ มันมีความสุข มันแฮปปี้ทั้งคู่เลยอ่ะ ไม่มีอะไรเสียใจเลย เพราะว่าเราทำเต็มที่ที่สุดแล้ว

ความรักครั้งนี้ให้อะไรกับเรา
แน่นอนครับ การมีความรักมันคือเรื่องที่ดี แล้วยิ่งเราได้เจอคนรักที่เป็นคนที่อบอุ่น มีความกตัญญู ซื่อสัตย์ จริงใจ พูดกันทุกเรื่อง มันเป็นสิ่งที่ดี มีความหวังดี

ใบเฟิร์นถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของเราเลยไหม
เขาคือผู้หญิงที่ดีที่สุดในใจผมเลยครับ

กำลังใจล้นหลามในช่วงที่ผ่านมา
ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่ติดตามเรา ทั้งเรื่องชีวิตส่วนตัว และเรื่องงาน เป็นกำลังใจให้เราตลอด เราสองคนแฮปปี้มีความสุขมากๆ และก็ขอบคุณคนรอบข้างพวกเราทั้งคู่เลย ขอบคุณ คุณพ่อคุณแม่เฟิร์น ที่เอ็นดูผมมาตลอด และก็ผมมองว่าทุกอย่างมันอยู่บนพื้นฐานของความรัก มันมีแต่ความเข้าใจกัน ถ้าบางอย่างมันใช้เหตุผลไม่ได้ มันก็คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลา

 

  • เจาะธุรกิจสุดว้าว “นาย ณภัทร เสียงสมบุญ” ที่ไม่เคยรู้มาก่อน
  • เส้นทางรัก “นาย ณภัทร – ใบเฟิร์น” รัก…แต่ (ทำไม) ไปต่อไม่ได้?

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ