คุมเข้มหนัก อิหร่านตั้งกล้องเพิ่มตามที่สาธารณะ เอาผิด ผู้หญิงไม่ใส่ฮิญาบ หากฝ่าฝืน จะถูกตักเตือน ปรับ หรือถูกจับกุม เพื่อป้องกันการต่อต้านกฎหมายฮิญาบ
ทางการอิหร่านเอาจริง! เพิ่มมาตรการคุมเข้มหนัก เริ่มติดตั้งกล้องในที่สาธารณะ เพื่อระบุตัวผู้หญิงที่ไม่สวมผ้าคลุมศีรษะหรือฮิญาบ โดยยังระบุอีกว่า ระบบดังกล่าวใช้กล้องที่เรียกว่า “กล้องอัจฉริยะ” และเครื่องมืออื่นๆ เพื่อระบุและส่ง “เอกสาร-ข้อความเตือนไปยังผู้ละเมิดกฎหมายฮิญาบ”
ทางตำรวจแจ้งว่า หากตรวจพบผู้หญิงที่ไม่สวมใส่ผ้าคลุมศีรษะ หญิงคนดังกล่าวจะได้รับ “ข้อความเตือน” เกี่ยวกับผลที่จะตามมาหากฝ่าฝืนกฎดังกล่าว โดยเชื่อว่าสิ่งนี้จะช่วยป้องกัน “การต่อต้านกฎหมายฮิญาบ”
การประท้วงต่อต้านกฎหมายฮิญาบจุดประกายเมื่อปีที่แล้ว จากการเสียชีวิตของ “มาห์ซา อามินี” เธอถูกจับกุมโดย ‘ตำรวจศีลธรรม’ (Morality Police) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่จะคอยตรวจตรา คุมเข้มเกี่ยวกับการแต่งกายของประชาชน โดยเฉพาะกฎระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการแต่งกายของผู้หญิง
‘อามินี’ เสียชีวิตหลังจากถูกจับกุมเพียง 3 วัน โดยเจ้าหน้าที่ระบุสาเหตุของการเสียชีวิตว่าเกิดจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ขณะที่ครอบครัวของเธอให้สัมภาษณ์ว่า เธอมีร่างกายที่แข็งแรงดี โดยมีรายงานบางส่วนบอกว่า เธอถูกตำรวจทำร้ายด้วยการใช้กระบองทุบตี และโขกศีรษะเข้ากับรถสายตรวจ จนมีอาการโคม่า
นับตั้งแต่การเสียชีวิตของ ‘อามินี’ เสมือนเป็นการจุดชนวนความขัดแย้ง แสดงให้เห็นถึงการกดขี่ทางเสรีภาพในการแต่งกายของผู้หญิง ทำให้เหล่าสตรีออกมาประท้วงและเลิกใช้ผ้าคลุมศีรษะจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกจับกุมก็ตาม
โดยผู้หญิงอิหร่านถูกบังคับให้คลุมผมด้วยฮิญาบ (ผ้าคลุมศีรษะ) ตามกฎหมาย นับตั้งแต่การปฏิวัติอิสลามในปี พ.ศ. 2522 ได้กำหนดให้มีการตีความกฎหมายศาสนาอย่างเข้มงวด ผู้หญิงที่ฝ่าฝืนกฎหมายจะถูกปรับหรือถูกจับกุม
ยิ่งกว่านั้นยังพบ การโจมตีผู้หญิงที่ไม่สวมฮิญาบในที่สาธารณะอีกด้วย เช่น กรณีชายคนหนึ่งปาโยเกิร์ตใส่ผู้หญิงสองคนที่ไม่สวมฮิญาบ ซึ่งถูกเผยแพร่จนเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ และต่อมาผู้หญิงเหล่านั้นก็ถูกจับกุมภายใต้กฎหมายฮิญาบ ชายคนนั้นก็ถูกจับเช่นกัน
และกระทรวงมหาดไทยยังเสริมอีกว่า “ผ้าคลุมศีรษะหรือฮิญาบเป็นหนึ่งในรากฐานทางอารยธรรมของประเทศอิหร่าน” และเรียกร้องให้มี “การตรวจสอบอย่างเข้มงวด”
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีอิหร่าน “อิบราฮิม ไรซี” ย้ำว่าผู้หญิงอิหร่านต้องสวมฮิญาบเป็น “ความจำเป็นทางศาสนา”
อย่างไรก็ตาม “โกลัมฮุสเซน เมห์เซนี-อีเจ” ประธานศาลยุติธรรมของอิหร่าน เตือนว่าการปราบปรามดังกล่าวอาจไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดในการส่งเสริมให้ผู้หญิงปฏิบัติตามกฎ
“ปัญหาทางวัฒนธรรมต้องแก้ไขด้วยวิธีทางวัฒนธรรม หากเราต้องการแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการจับกุมและคุมขัง ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นและเราจะไม่เห็นประสิทธิภาพที่ต้องการ”
ที่มา : BBC, Aljazeera