คุณยายชาวจีน ใช้ ‘กัวซา’ กับหลานสาววัย 10 เดือน หวังช่วยบรรเทาอาการไอ แต่สุดท้ายบาดเจ็บสาหัส ถูกหามส่งรพ.
เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นที่มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน เมื่อคุณยายท่านหนึ่งพยายามลองใช้แพทย์ศาสตร์แผนจีนโบราณที่เรียกว่า ‘กัวซา’ กับหลานสาววัย 10 เดือนแต่ผลปรากฏว่าวิธีการรักษาดังกล่าวกับทำให้เด็กน้อยบาดเจ็บสาหัสจนต้องหามส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา
‘กัวซา’ เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาโบราณของจีนที่มีอายุยาวนานมากกว่า 2,000 ปี ชาวจีนหลายคนได้ดัดแปลงกัวซามาทำเป็นข้าวของเครื่องใช้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น หวี ช้อน หรือเหรียญ ชาวจีนส่วนใหญ่มักจะเอากัวซามาถูหรือกดบริเวณผิวหนังเบาๆเพื่อเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและขับพิษในร่างกายอีกด้วย
อย่างไรก็ตามหลังจากการรักษาด้วยกัวซาแล้วผิวหนังของผู้ป่วยอาจมีรอยแดงหรือช้ำตามมาขึ้นอยู่กับความละเอียดอ่อนของผิวในบริเวณนั้นๆอีกด้วยซึ่งปกติแล้วรอยช้ำดังกล่าวจะหายไปเองโดยธรรมชาติแต่ถ้าหายรอยช้ำดังกล่าวไม่หายผู้ป่วยก็อาจมีอาการป่วยเพลียหรือมีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแออตามมาได้ ทั้งนี้คุณยายชาวจีนคนดังกล่าวได้ใช้แหวนกัวซาปาดไปที่หน้าผากของหลานสาวเพื่อหวังว่ามันจะรักษาอาการไอได้แต่ทว่ารอยแดงที่หน้าผากกลับไม่หายไปแถมมันยังดูเลวร้ายขึ้น
“แม่ของฉันบอกว่าเรามาลองรักษาแบบโบราณกันดูไหมล่ะ (กัวซา) แต่เธอน่าจะนำมันไปถูกหน้าผากของหลานแรงจนเกิดไป จนทำให้ผิวบริเวณดังกล่าวเป็นแผล” แม่ของเด็กน้อยกล่าว
แพทย์ผู้รับผิดชอบได้รายงานว่า ตอนนี้หนูน้อยวัย 10 เดือนมาถึงหน้าผากของเธอเต็มไปด้วยผื่นแตงที่เกิดจากรอยขีดข่วนแถมยังมีผิวหนังบางส่วนที่อักเสบและเป็นหนองอย่างเห็นได้ชัด
ชาวเน็ตจีนได้หลายได้ออกมาแสดงความเห็นใจต่อเด็กน้อยแถมพวกเขายังบอกอีกว่ากัวซาไม่ควรใช้กับเด็กเล็กชาวเน็ตอีกหลายคนยังบอกอีกว่าตนก็เคยได้รับประสบการณ์แย่ๆจากผู้ใหญ่เชื่อเรื่องการรักษาแบบโบราณเช่นเดียวกันโดยไม่นานมานี้ยังมีรายงานอีกว่าหญิชราคนหนึ่งได้ใช้น้ำมันที่สกัดจากหนูปรุงสุกมาทาบนแผลไฟไหม้ของหลายชายเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บแต่ผลลัพธ์กลับเป็นว่าหลายชายของเธอติดเชื้อร้ายแรงและนอนรักษาอยู่ในห้องผู้ป่วยร้ายแรงอยู่หลายเดือน
ที่มา asiaone.com