เปิดโปรแกรม บิ๊กตู่ 2 สัปดาห์ คิวแน่น! บินกัมพูชาประชุมผู้นำอาเซียน กลับมาประชุมเอเปคต่อ เผย มีผู้นำ 15 เขตเศรษฐกิจตอบรับเข้าร่วมแล้ว ระบุ ความพร้อมเกิน 90%
เมื่อเวลา 11.10 น. วันที่ 7 พ.ย. 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม มีภารกิจสำคัญในรอบ 2 สัปดาห์นี้ 3 ส่วนหลัก ส่วนแรก นายกฯจะเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ระหว่างวันที่ 10-13 พ.ย. ที่ประเทศกัมพูชา โดยจะออกเดินทางวันที่ 10 พ.ย. และเดินทางกลับวันที่ 13 พ.ย.
การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในครั้งนี้ นายกฯ เป็นประธานประชุมผู้นำแผนพัฒนาเศรษฐกิจ 3 ฝ่าย ประกอบด้วย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย หลังจากนั้นจะร่วมประชุมคู่เจรจา ประกอบด้วย จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา แคนาดา และสหประชาชาติ และจะมีการประชุมสุดยอดอาเซียน +3 ประกอบด้วย จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น รวมถึงประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียตะวันออก โดยพล.อ.ประยุทธ์ มีแผนกำหนดที่จะหารือกับภาคส่วนต่างๆ ของอาเซียน ทั้งผู้แทนของรัฐสภา เยาวชน และภาคธุรกิจ
นายอนุชา กล่าวว่า ส่วนสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปค 2022 ระหว่างวันที่ 14-19 พ.ย. โดยพล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นประธานเปิดนิทรรศการโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG ซึ่งประเทศไทยจะนำเสนอเป็นหัวข้อหลัก นอกเหนือจากธีม Open Connect Balance หรือการเปิดกว้างสร้างความสัมพันธ์ เชื่อมโยงกันสู่สมดุลย์
ท่ามกลางความท้าทายใหม่ๆ ของโลกในปัจจุบัน ทั้งห่วงโซ่อุปทาน การหยุดชะงัก ปัญหาสภาพอากาศ เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในส่วนของมหาอำนาจต่างๆ และความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังคงมีอยู่ ฉะนั้น การประชุมครั้งนี้ประเทศไทยมีโอกาสสำคัญที่จะแสดงบทบาทในการกำหนดทิศทางเบื้องต้น และขอความร่วมมือจากนานาประเทศในประเด็นต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ปัญหาต่างๆ ให้คลี่คลายโดยเร็ว
นายอนุชา กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้นำตอบรับเข้าร่วมประชุมเอเปคครั้งนี้แล้ว 15 เขตเศรษฐกิจ ที่จะมาร่วมประชุมด้วยตัวเอง และอีก 5 เขตเศรษฐกิจจะส่งผู้แทนมาเข้าร่วมประชุม ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ มาเลเซีย เม็กซิโก และจีนไทเป (ไต้หวัน) ส่วนรัสเซียยังรอการยืนยันการตอบรับอย่างเป็นทางการ การประชุมครั้งนี้นอกจากการนำเสนอในเรื่องของ BCG แล้ว จะมีการพบหน้ากันระหว่างผู้นำเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ที่มีการรวมตัวกันมากขนาดนี้
นายอนุชา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ จะมีการต้อนรับผู้นำ 3 ประเทศที่ทำเนียบรัฐบาล ในช่วงระหว่างการประชุมเอเปค ได้แก่ เวียดนาม จีน ซึ่งนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีนจะเดินทางมาด้วยตัวเอง และเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ซาอุดีอาระเบีย
โดยจะมีการต้อนรับ และหารือแบบเต็มคณะ มีรัฐมนตรีของแต่ละประเทศมาร่วมไม่ต่ำกว่า 10 คน รวมถึงจะมีงานเลี้ยง จึงขอให้คนไทยทุกคนร่วมเป็นเจ้าภาพ เพื่อให้แต่ละประเทศที่เข้ามาเห็นศักยภาพของประเทศไทย ในการเป็นประเทศที่มีขีดความสามารถ ที่จะสามารถเข้ามาลงทุน และเกิดความเชื่อมั่น
“รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปคไว้เกิน 90% แล้ว ในการรับมือสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ทั้งการต้อนรับผู้นำ การประชุมในสถานที่ต่างๆ เนื้อหาสาระที่จะประชุม การสร้างความประทับใจด้วยการจัดกาลาดินเนอร์ ของที่ระลึก รวมถึงโปรแกรมสำหรับคู่สมรส
ในส่วนของการรักษาความปลอดภัยได้เตรียมความพร้อมไว้ทุกส่วนแล้ว นอกจากนี้ มีผู้สื่อข่าวต่างประเทศลงทะเบียนเข้ามาทำข่าวการประชุมครั้งนี้มากกว่า 2,000 คน เราจึงเตรียมเนื้อหาการประชุมและสิ่งดีๆ ที่ประเทศไทยจะนำเสนอให้ไปเผยแพร่ เพื่อเป็นสปอร์ตไลต์ให้ทั่วโลกได้เห็น” นายอนุชา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการหารือทวิภาคีหรือต้อนรับนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสหรือไม่อย่างไร นายอนุชา กล่าวว่า นายมาครงจะมาร่วมประชุมเอเปคด้วย ในส่วนการหารือทวิภาคีนั้น มีบางส่วนที่ยืนยันมาแล้ว และบางส่วนที่อยู่ระหว่างทาบทาม ซึ่งจะต้องดูจังหวะและเวลา จะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้งว่า จะมีการทวิภาคีกับผู้นำประเทศใดบ้าง