คำผกา แนะกรมราชทัณฑ์ เป็นหน่วยงานราชการ มีความน่าเชื่อถือมากกว่า ไม่ควรฟ้องประชาชน ทุกคนมีสิทธิ์พูด นำผลงานปฏิรูปเรือนจำมาโชว์ สังคมก็เชื่อมั่นแล้ว

วันที่ 2 ก.ย.2565 ข่าวจบ คนไม่จบ! EP23 วิเคราะห์เจาะลึก ถึงพริกถึงขิง จากมุมมอง “อั๋น ภูวนาทและ แขก คำผกา” กับ 3 วิพากษ์เผ็ดร้อน 3 ประเด็นฮอต คดีForex-3DลามคุกVIPใช้มือถือ ราชทัณฑ์โต้ โศกนาฏกรรมซ้ำซาก ครูลืมเด็กในรถตู้อีกแล้ว ‘กรณ์’ ทิ้งพรรคกล้า ซบพรรค ‘สุวัจน์’ โดยพิธีกรคืออั๋น-ภูวนาท คุนผลิน และคำผกา ลักขณา ปันวิชัย สำหรับประเด็นคดีForex-3 D นั้น

อั๋นเผยว่า กรมราชทัณฑ์ออกมาให้ข่าวว่าจะมีการฟ้องพิธีกรรายการที่มีการให้ข้อมูลในโลกออนไลน์สร้างความเสียหาย โดยนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงว่า กรมราชทัณฑ์ในปัจจุบันยังคงถือระเบียบปฏิบัติอย่างเคร่งครัด มิได้ให้สิทธิพิเศษแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งตามที่สังคมเข้าใจแต่อย่างใด รวมถึงการใช้เครื่องมือสื่อสาร

กรมราชทัณฑ์ ขอยืนยันว่าไม่มีการให้ผู้ต้องขังคนใดมีเครื่องมือสื่อสาร หรือโทรศัพท์มือถือไว้ใช้ภายในเรือนจำอย่างแน่นอน โดยกรมราชทัณฑ์มีมาตรการเข้มงวดในเรื่องของการจู่โจมตรวจค้นอย่างจริงจัง รวมถึงมีบทลงโทษที่ชัดเจนกับผู้กระทำผิด

อีกทั้งการกล่าวอ้างว่ามีผู้ต้องขังบางรายได้รับสิทธิพิเศษได้อยู่อย่างสุขสบายเหนือกว่าผู้ต้องขังรายอื่นๆ นั้น ขอเรียนว่า ผู้ต้องขังทุกคนได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียม เสมอภาค ตามหลักสิทธิมนุษยชน จึงขอให้ประชาชนอย่าได้หลงเชื่อคำกล่าวอ้าง หรือคำบอกเล่าที่ไม่เป็นความจริง

“สรุปคือจะฟ้อง”

อ่านข่าว พิธีกรรายการ “แฉ” งานเข้า! ราชทัณฑ์ จ่อเอาผิดปมอ้างมีคุกVIP-ใช้มือถือ

คำผกาเผยว่า ตนเชื่อในเสรีภาพการแสดงออก ไม่ต้องพูดถึงเสรีภาพสื่อนั้น เป็นเสรีภาพขั้นกว่า เพราะสื่อมวลชนมีการทำงานกลั่นกรอง แต่ประชาชนทุกคนควรมีสิทธิ์ได้พูด อาจจะพูดประมาทเลิ่นเล้อ พูดแบบไม่รู้ แต่ก็ควรพูดได้

เรารู้ว่าหน่วยงานราชการนั้น มีอำนาจที่สามารถพิสูจน์ในสิ่งที่ประชาชน คนรอบรู้ออกมาพูดว่า ไม่จริง ก็แค่ออกมาชี้แจง เอาหลักฐานมาโชว์ก็เท่านั้น ความน่าเชื่อถือนี้ก็ควรกลับไปสู่ระบบราชการ

“แค่อธิบายก็จบ เพราะเรามีเครดิตมากกว่า เหมือนเอาทองไปลูบกระเบื้อง”

อั๋นตั้งข้อสงสัยว่า ถ้ามีคนรอบรู้ ใครออกมาพูดอะไรตามใจไปหมด พูดไปเรื่อย แล้วได้พื้นที่สื่อ จุดนี้คำผกาเผยว่า หากมีคนมาใส่ร้ายเราทุกวัน แต่หน่วยงานราชการนั้น มีความเชื่อถือสูงมาก ใครก็ทำอะไรไม่ได้ คนออกมาพูดไปเรื่อยก็ยิ่งเข้าตัวเอง

ตนมองในหลักการนี้ มันเหมือนเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ และอั๋นเผยว่า คำผกา จะไม่ฟ้องใครทั้งสิ้นที่ด่าตนเอง เพราะก็โดนเยอะ มีคนบอกให้ฟ้องก็คงจบ แต่ตนรู้สึกว่าไม่ควรไปเสียเวลา คนส่วนใหญ่แยกแยะได้ ว่าสิ่งที่พูดมันมีต้นปลายอะไรเลย

คำผกาเผยว่า ตนโดนด่ามาเยอะมาก ก็ขอบคุณค่ะ นี่คือแฟนคลับ เพราะเขาติดตามเรา ใช้เวลากับเรามากขนาดนี้ หลายๆ คนเขาเขียนเสร็จก็ไปทำอย่างอื่น ถ้าเรามานั่งเสียใจสิ่งที่เขาทำใน 3 วินาทีก็ขาดทุน ต่อให้ได้เงิน มันก็ไม่คุ้ม สิ่งที่เขาทำนั้น ไม่รู้เขาใส่ใจแค่ไหน

“เขาไม่ได้มีเราอยู่ในชีวิตตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นเราอย่าไปเสียเวลาเลย ดังนั้นกรมราชทัณฑ์ เป็นหน่วยงาน กระทรวงยุติธรรมก็มีผลงานก้าวหน้ามากในหลายเรื่อง ที่ข้าราชการผลักดันในการปฏิรูปหลายด้าน ที่พยายามทำให้นักโทษน้อยลง”

สิ่งเหล่านี้ ตนไม่อยากให้เสียกำลังใจ กรมราชทัณฑ์ใช้เวลากับการทำเรื่องดีๆ มาเผยแพร่ให้ประชาชนรู้ และทำให้กระบวนการในหน่วยงานโปร่งใส คนก็จะไม่ถือสาการวิจารณ์ แต่พอไปฟ้อง มันเหมือนราชการไปทำกับประชาชน มันก็ไม่แฟร์ ข้อครหาเรื่องคุกวีไอพีนั้น วิธีแก้ง่ายมาก ไปดูงานปฏิรูปราชทัณฑ์ ทำให้คุณภาพของผู้ต้องขังดีขึ้น เสมอหน้า เพื่อคืนความดีสู่สังคม

คืนความเป็นมนุษย์ให้นักโทษ เมื่อออกมาคุกแล้ว ทำคนผิดให้ถูกและดีขึ้น ทำตรงนั้นดีกว่า ถ้าทุกคนวีไอพี ในที่นี้คือ มีพื้นที่ให้แก้ไขพัฒนาศักยภาพของตัวเอง เห็นใจมนุษย์ เราใช้เวลาจำกัดอิสรภาพของเขา เป็นห้วงเวลาเพิ่มความเห็นใจของคนเหล่านี้ ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหาอาชญากรรม

ถ้าเขามีความเห็นใจต่อเพื่อนมนุษย์ ก็จะได้เริ่มต้นใหม่ คดีอาชญากรรมก็จะลดลง

อั๋นเผยว่า ขอยกตัวอย่างโปรตุเกส ที่เคยไป ซึ่งต้องระวังตัวมาก มีคนเข้ามาขายยาต่อหน้าเราเลย มุมหนึ่งเขาแก้ไขคุกในโปรตุเกส ซึ่งดีมาก มีห้องส่วนตัวกับคน ให้คอมพิวเตอร์ ไม่ได้หรูหรา แต่มีพื้นฐานที่ดี และสะอาด เหมือนอยู่หอพักเล็กๆ 1 ห้อง ให้เขาตัดสินใจเอง เพราะมีกุญแจ ทุกคนดูแลกันเอง สามารถยืมหนังสือมาอ่านได้หมด

“นักโทษมีชีวิตที่ดี จนเมื่อออกไป ก็จะต้องรักษาชีวิตนี้ให้ได้”

คำผกาเผยว่าคนที่กระทำผิดรุนแรงนั้น ไม่มีอะไรต้องเสีย แต่วิถีชีวิตในเรือนจำ ถ้ามันมีสิ่งที่ทำให้เขาคิดว่าชีวิตดี มันมีอะไรต้องเสียหากทำอะไรลงไป ก็จะสูญเสียไปด้วย

คนที่ไม่มีอะไรจะเสีย จะก่อเหตุรุนแรง เราต้องเติมให้เขา จนรู้สึกว่าไม่ควรจะเสีย

“เมื่อมีคำถาม อีกฝ่ายก็ควรจะตอบ”