โดยปกติแล้วตู้เย็นจะวางไว้ในห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร หรือแม้แต่ห้องรับแขก แต่ก็มีบางกรณีที่วางไว้ในห้องนอนด้วย แต่ก็ยังมีขอสงสัยว่าการมีตู้เย็นอยู่ในห้องนอนนั้น จะส่งผลเสียอย่างไรหรือไม่….? สำหรับคำถามนี้ แน่นอนว่าคำตอบคือ “ใช่” ด้วยเหตุผล 4 ประการ ดังต่อไปนี้ อาจช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเงินซื้อบทเรียนราคาแพง
ผลกระทบของรังสี
เมื่อตู้เย็นทำงาน รังสีแม่เหล็กที่ปล่อยออกมาจากด้านหลัง และการกระจายความร้อนด้านล่างจะรุนแรงมาก หากวางตู้เย็นไว้ในห้องนอนซึ่งเป็นสถานที่ๆ มีระยะเวลาในการเข้าพักค่อนข้างนาน รังสีที่ปล่อยออกมาจากตู้เย็นจะเป็นอันตรายต่อร่างกายของเรา ไม่ต้องพูดถึงว่าถ้าวางตู้เย็นไว้ใกล้เตียง แหล่งกำเนิดรังสีก็จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากขึ้นไปอีก
ปัญหาเรื่องเสียง
หลังจากทำงานหรือเรียนหนังสือมาทั้งวัน ก็ต้องพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูจิตใจ และรักษาสุขภาพให้แข็งแรง พื้นที่ที่เงียบสงบจะทำให้นอนหลับได้ง่ายขึ้นและลึกขึ้น ในทางกลับกัน เวลาใช้งานตู้เย็นจะมีเสียงดั และเราไม่สามารถถอดปลั๊กสายไฟของตู้เย็นเพื่อกันเสียงรบกวนได้ เพราะการทำเช่นนี้อาจทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้น ทำให้ตู้เย็นพังเร็ว และทำให้อาหารภายในตู้เย็นเน่าเสีย
ปัญหาเรื่องกลิ่น
ในตู้เย็นมีอาหารดิบและอาหารปรุงสุกอยู่มากมาย และเมื่อเปิดประตูเพื่อหยิบของออกมา กลิ่นของอาหารก็จะกระจายไปทั่วห้องด้วย ซึ่งไม่น่าพึงประสงค์อย่างแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงว่าถ้าเก็บอาหารทะเลไว้ในตู้เย็น เช่น กุ้ง ปลาหมึก หรือลืมทำความสะอาดเป็นประจำ กลิ่นของตู้เย็นจะทำให้ห้องนอนมีกลิ่นแรง หากเผลอทำน้ำหรืออาหารหล่นลงพื้นโดยไม่ได้ตั้งใจ การทำความสะอาดก็ยิ่งหน้าปวดหัว
ปัญหาเรื่องอุณหภูมิ
ปัญหานี้จะรู้สึกได้ชัดเจนมากในฤดูร้อน เพราะอากาศร้อนที่ปล่อยออกมาจากตู้เย็นจะทำให้อุณหภูมิในห้องนอนเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะเปิดเครื่องปรับอากาศแล้ว อุณหภูมิก็จะลดลงเพียง 2-3 องศาเท่านั้น และหากคุณเปิดเครื่องปรับอากาศที่อุณหภูมิต่ำลงอีก เพื่อลดอุณหภูมิภายในห้องอย่างรวดเร็ว ก็จะไม่ดีต่อร่างกาย
จากเหตุผลข้างต้นทั้งหมด คงพอเข้าใจแล้วว่าทำไมไม่ควรวางตู้เย็นไว้ในห้องนอน ดังนั้นหากไม่ใช่ทางเลือกสุดท้าย หรือบ้านมีขนาดเล็กมากเกินไปจริงๆ ก็ควรวางตู้เย็นไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม
- เตือนแล้วนะ! วัตถุดิบอาหาร 3 สิ่งที่ “ห้าม” ใส่ตู้เย็นเด็ดขาด
- รู้หรือไม่? ไม่ควรวางสิ่งของบนหลัง “ตู้เย็น” อันตรายที่มากกว่าแค่เรื่องฮวงจุ้ย