กลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์อีกครั้ง เมื่อสาววัย 26 ปี ได้ออกมาอัดคลิปเล่าทั้งน้ำตาถึงประสบการณ์หางานที่ยากลำบากในรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา สะท้อนปัญหาภาวะการว่างงานในกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังแผ่ขยายเป็นวงกว้างในทุกประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
โดยสาวรายนี้มีชื่อว่า “โลฮานนี ซานโตส” (Lohanny Santos) เธอเป็นชาวนิวยอร์กที่พยายามหางานบริษัททำในตำแหน่ง “จูเนียร์ ครีเอทีฟ” แต่ก็ไม่มีการตอบรับ จนต้องตัดสินใจหางานแบบเคาะประตูถาม หรือที่เรียกว่า “Go Door-to-Door” ซึ่งเธอก็พบว่าวิธีดังกล่าวไม่ประสบผลสำเร็จเช่นเดียวกัน จึงอัดคลิประบายลงบนบัญชี TikTok ส่วนตัว เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งวิดีโอดังกล่าวก็ได้กลายเป็นกระแสไวรัลทันที ด้วยยอดเข้าชมเกือบ 25 ล้านครั้ง
การแสดงความคิดเห็นจากผู้ใช้ TikTok มากมาย โดยเฉพาะจากกลุ่ม Gen Z ที่ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า พวกตนก็พบเจอความยากลำบากเกี่ยวกับการหางานเช่นเดียวกัน ในขณะที่บางส่วนได้เข้ามาให้คำแนะนำกับ โลฮานนี ว่า เวลาไปของานทำตามร้านต่างๆ อย่าพยายามคุยกับพนักงาน แต่ให้พยายามบอกพวกเขาว่าขอคุยกับผู้จัดการร้าน ในขณะที่ความเห็นอื่นๆ แนะนำว่าเธอควรไปทำงานด้านภาษามากกว่า เนื่องจากพูดได้ถึง 3 ภาษา
โลฮานนี ได้เปิดเผยในคลิปวิดีโอนี้ว่า เธอรู้สึกท้อแท้อย่างมาก และรู้สึกอายเนื่องจากเธอถูกปฏิเสธงานที่เธอเรียกร้องเพียงเงินเดือนขั้นต่ำตามกฎหมายเท่านั้น ก่อนเล่าว่าตัวเธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเพซ (Pace University) ในนิวยอร์ก พูดได้ 3 ภาษาและมีปริญญา 2 ใบ ได้แก่ปริญญาด้านการสื่อสารและปริญญาด้านการแสดง ด้วยเหตุนี้เธอจึงรู้สึกผิดหวังกับสิ่งที่เธอเผชิญอยู่อย่างมาก
นอกจากนี้เธอยังเล่าว่า ก่อนหน้าที่เธอจะมาเดินหางานทำ เธออยากยึดอาชีพ ‘TikToker’ เป็นหลัก ทว่าอาชีพดังกล่าวก็ไม่สามารถเลี้ยงปากเลี้ยงท้องให้เธอได้จริง เนื่องจากปัจจุบันเธอมีผู้ติดตามใน TikTok 152,200 คน และมียอดไลก์รวมทั้งหมด 9.6 ล้าน ซึ่งอาจไม่เพียงพอต่อการหารายได้เพื่อเลี้ยงชีพ เนื่องจากตามข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญ ฐานผู้ติดตามจำนวนนี้ถือเป็น “อินฟลูเอนเซอร์ระดับกลาง” เท่านั้น โดยในระดับนี้จะมีผู้ติดตามอยู่ที่ 50,000-500,000 คน และทำรายได้อยู่ที่ 125-1,250 ดอลลาร์ หรือประมาณ 4,400-44,826 บาท ต่อ 1 โพสต์ ซึ่งไม่เพียงพอต่อการครองชีพด้วยตนเองในมหานครนิวยอร์ก ที่มีค่าครองชีพโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 4,299 ดอลลาร์ หรือประมาณ 154,168 ต่อเดือนต่อคน
ปัญหาที่ โลฮานนี เจอนี้ เป็นสิ่งที่สะท้อนสภาวะว่างงานของหนุ่มสาวในสหรัฐฯ ได้เป็นอย่างดี โดยจากข้อมูลของธนาคารโลก (World Bank) ปี 2020 สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีเยาวชนว่างงานมากที่สุดเป็นอันดับ 5 จาก 7 และเป็นประเทศที่มีประชากรว่างงานเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยสถิติจากเดือนกันยายนของปีที่ผ่านมา พบว่าประชากรสหรัฐฯ มีอัตราว่างงานอยู่ถึง 6.4 ล้านคน โดยตัวเลขดังกล่าวมีผลกระทบมาจากการที่บริษัทใหญ่ๆในสหรัฐฯ ประกาศลดจำนวนพนักงาน ซึ่งทำให้กลุ่ม Gen Z ได้รับผลกระทบโดยตรง
อย่างในเดือนมกราคมที่ผ่านมา Spotify เลิกจ้างพนักงานประมาณ 600 คน ในเดือนเมษายน Buzzfeed ได้ประกาศปิดแผนกข่าวซึ่งส่งผลกระทบต่อพนักงาน 180 คน และในเดือนมีนาคม-พฤษภาคม Meta ได้ประกาศเลิกจ้างพนักงานเกือบ 10,000 คน ในช่วงเวลาดังกล่าว ปัญหาอัตราการว่างงานจึงยังเป็นปัญหาที่รอการแก้ไข และกลายเป็นประเด็นถกเถียงในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในปลายปีนี้