คลิประทึกหนุ่มเลือดอาบหน้า อาละวาดพังห้องฉุกเฉิน เช้ามาได้สติสุดอาย ทำไปเพราะเมายา ตรวจร่างกายพบสารเสพติด
(1 ต.ค.64) จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊กชื่อ สถานีตำรวจภูธรเมืองสกลนคร ได้โพสคลิปชายคนหนึ่งอาละวาดในโรงพยาบาลแล้วมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัวในที่เกิดเหตุ พร้อมกับข้อความว่า ยุทธวิธีไม้ง่าม ระงับเหตุคนสติไม่สมประกอบ ก่อเหตุความวุ่นวายที่ โรงพยาบาลศูนย์สกลนคร วันที่ 28 กันบาบย 2564 เวลา 01.10 น. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จนท.ตร. 191 สห.ปกครอง กู้ชีพ กู้ภัย ร่วมบูรณาการในการปฎิบัติ ทำให้มีการแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก และเกิดเสียงวิจารณ์หลายมุม
ด้าน พ.ต.อ.พุฒินันท์ อำพันธ์ ผกก.สภ.เมืองสกลนคร ได้ออกมาชี้แจ้งว่า เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2564 เวลา 01.00 น. รับแจ้งเหตุจาก ร.พ.ศูนย์สกลนคร มีชายคลุ้มคลั่งอาละวาด ตรวจสอบชายคนดังกล่าวเป็นชาย อายุ 22 ปี ได้ประสบอุบัติเหตุจักรยานลงเองหน้าตลาดสดเชียงเครือ ต.ฮางโฮง อ.เมือง จ.สกลนคร พบมีบาดแผลลึกที่หน้า เจ้าหน้าที่กู้ชีพได้ทำการช่วยเหลือทำแผลเบื้องต้นและนำส่งโรงพยาบาลศูนย์สกลนคร จนนำมาซึ่งเหตุการณ์ที่ปรากฎในคลิป
ซึ่งตามคลิป เป็นชายลักษณะผมยาวปะบ่า สวมเสือสีเทา กางเกงขาสั้น รองเท้าเตะ มีท่าทีต่อต้านเจ้าหน้าที่ จับอุปกรณ์ทางการแพทย์เหวี่ยงไปมา พูดจาหยาบคายโต้ตอบกับเจ้าหน้าที่ผู้หญิงคนหนึ่ง (เสื้อสีน้ำเงิน) อยู่พักหนึ่ง จากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สห. และตชด. ได้ใช้ยุทธวิธีไม้สามง่ามเข้าควบคุบตัวนายเอกชัยได้สำเร็จ ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบทรัพย์สินของโรงพยาบาลเสียหาย
ต่อมา นายแพทย์พูลสวัสดิ์ วงศ์วิชิต รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์ รพ.สกลนคร กล่าวว่า คนไข้เข้ามารักษาตัวจากอุบัติเหตุรถล้มเองมีบาดแผลฉีกขาดที่ศีรษะ เวลา 00.40 น. เพียงไม่กี่นาทีคนไข้ก็โวยวายตามในคลิปโดยไม่ได้สติคล้ายคนเมา จนเหตุสงบลง เช้าวันต่อมาคนไข้ก็พูดจารู้เรื่องดีและรู้สึกอายจากเรื่องที่เกิดขึ้น ทางโรงพยาบาลได้ทำการรักษาทั้งแผลและปรึกษาในเรื่องจิตเวช ขณะนี้กลับบ้านแล้ว แต่สาเหตุของการคุมสติไม่ได้เอะอะโวยวายกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่ ปรากฎว่าระหว่างเกิดเหตุเมื่อตรวจร่างกายคนไข้รายนี้พบสารเสพติดในร่างกายจากผลยืนยัน อย่างไรก็ตามถือว่าโชคดีอย่างมากที่ จนท.ไม่ได้รับบาดเจ็บและอุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่เสียหาย
ล่าสุดหลังจากทราบเรื่องจาก ผลตรวจของโรงพยาบาลสกลนคร แล้วทาง จนท.ตำรวจ สภ.สกลนคร ก็ต้องดำเนินคดีกับชายคนดังกล่าวเป็นผู้เสพ เนื่องจากวันดังกล่าวที่ไม่ได้ดำเนินการใดๆ เพราะไม่ทราบว่ามีสารเสพติดในร่างกายโดยผิดกฎหมาย