ครูเยี่ยมบ้านเด็ก ม.4 ห้องเรียนอัจฉริยะ โรงเรียนดัง อึ้งสภาพรันทด แม่ตาย พ่อทิ้ง ยายเอาหมูไปเปลี่ยนเป็นค่าเทอม

เวลา 14.00 น. วันที่ 20 มิถุนายน 66 นางดนิตา สมจิตต์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยคณะเหล่ากาชาด นายชัยลักษณ์ รักษา ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคเหนือ นายณัฐกิตติ์ ชาวนา ผอ.โรงเรียนบ้านเข็ก ตำบลแม่ระกา น.ส.สุภาวดี สกุลใจฉ่ำ พนักงานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก ผู้นำท้องถิ่นผู้นำท้องที่ ได้ร่วมกันมาตรวจเยี่ยมพร้อมให้การช่วยเหลือ นายศุกลวัฒน์ อินอาด หรือ น้องเวียร์ อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.4 เป็นเด็กเรียนดี โปรแกรมสมาร์ท ห้องเรียนอัจฉริยะ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคเหนือ อยู่บ้านเลขที่ 169/4 หมู่ 7 บ้านแหลมดู่ ต.แม่ระกา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ซึ่งอาศัยอยู่กับยาย นางวันลา เกตุแก้ว อายุ 70 ปี ซึ่งยายมีอาชีพรับจ้างแพ็คขนมทองม้วน มีรายได้วันละ 50 บาท ซึ่งการมาตรวจเยี่ยมครั้งนี้เนื่องจากก่อนหน้านี้

นางประภาพรรณ คำรังษี อายุ 55 ปี ครูที่ปรึกษาได้มาตรวจเยี่ยมแล้วพบว่าสภาพความเป็นอยู่น้องค่อนข้างลำบาก จึงรายงานการตรวจเยี่ยมให้กับทางผู้บริหารโรงเรียนเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือเนื่องจากห้องที่ห้องเรียนต้องใช้เงินจำนวนมากในการเรียนและทำกิจกรรม โดยเฉพาะค่าเทอม ตกเทอมละ 8,000 บาท และล่าสุดทราบว่ายายได้ขายสุกร (หมู) ไป 1 ตัว เพื่อนำเงินมาจ่ายค่าเทอมให้หลานชาย จากหมูที่เลี้ยงไว้ทั้งหมด 3 ตัว ตายได้ 1 ตัว จึงเหลือหมูอีกเพียง 1 ตัว จึงเกรงว่าน้องจากสามารถเรียนจนจบมัธยมปลายไหม

หลังจากมีการประสานหน่อยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง นายกเหล่ากาชาดพิษณุโลก นายอำเภอวังทอง อบต.แม่ระกา และ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จึงเดินทางมาช่วยเหลือเป็นการเบื้องต้น ซึ่งจากการตรวจสอบพบสภาพชีวิต นางวันลา เกตุแก้ว ผู้เป็นยาย บ้านที่ดินถูกยึดเนื่องจากกู้ ธกส.ให้ลูกสาวไปเป็นทุนเลี้ยงเป็ด ต่อมาลูกเป็นมะเร็งเต้านมเสียชีวิตตอนนั้น น้องเวียร์ เรียนอยู่อนุบาล 2 ภายหลัง พ่อทิ้งไป ไม่มาดูแล น้องเวียร์ จึงอยู่กับยาย 2 คน ยายมีอาชีพรับจ้างทั่วไปเล็กๆ น้อยๆ มีรายได้ไม่เกิน 1,000 บาท และรับจ้างแพ็คขนม มีรายได้ไม่แน่นอน บางวันได้ 50 บาท บางวันไม่มีรายได้ ได้เงินเบี้ยคนชรา 600 บาท ส่งหลานชายเรียน

ขณะที่น้องเวียร์ ในวันหยุด จะไปช่วยงานที่วัดบ้านแถว ตำบลแม่ระกา และได้เงินจากท่านเจ้าคณะตำบลแม่ระกา เจ้าอาวาสวัดบ้านแถว อุปการะให้มาโรงเรียนวันละ 100 บาท เจ้าอาวาสยังจ่ายค่ารถรับส่งนักเรียนให้อีก เดือนละ 1,200 บาท เนื่องจากน้องเวียร์ เป็นเด็กดี เด็กเรียนดี ได้เป็นตัวแทนไปแข่งสวดมนต์ได้รับรางวัลชนะเลิศมา 3 ปีซ้อน และ ในวันที่ 5-8 ก.ค.66 จะไปแข่งสวดมนต์ ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติ กทม.

สภาพบ้านพักอาศัย ยกใต้ถุน ฝาบ้านและหลังคา สังกะสี สภาพไม่มั่นคงแข็งแรง บริเวณที่ดินบ้านพักอาศัย เป็นที่ดินชายคลองสาธารณะ (คลองเข็ก) ยาย มีปัญหาด้านสุขภาพไม่แข็งแรง เป็นเบาหวาน ความดัน รับยาจาก รพ.สต.ใกล้บ้านปัญหา/ความต้องการ เนื่องจากยายไม่มีรายได้เพียงพอต่อการใช้จ่ายในครัวเรือน มีความต้องการ 1.เครื่องอุปโภค บริโภค 2.อุปกรณ์การเรียนด้านเทคโนโลยี 3.เสาไฟ ที่มั่นคงแข็งแรงเพื่อยึดโยงสายไฟฟ้า 4.ถนนทางเข้าบ้าน ซึ่งเป็นลูกรัง มีน้ำท่วมขัง ช่วงฤดูฝน

นางวันลา เกตุแก้ว กล่าวว่า น้องเวียร์ หลานชาย ตนเองเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กๆ เนื่องจากแม่ของน้องเวียร์ เสียชีวิตตั้งแต่ยังเล็ก ส่วนพ่อก็เดินทางไปหางานทำที่อื่น ทำให้ตนเลี้ยงน้องเวียร์ ตั้งแต่ 2 ขวบ จนโต โดยรับจ้างทั่วไปและเลี้ยงหมู เพื่อส่งเสียน้องเวียร์ให้เรียนจนสามารถสอบเข้าได้มัธยมศึกษาตอนปลาย แต่เนื่องด้วยต้องใช้ค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ตนก็ยังคิดว่า ไม่รู้จะหาเงินมาส่งเสีย ได้นานอีกเท่าไร ซึ่งค่าเทอมเทอมแรก ก็ได้ขายหมู ไป 1 ตัว ได้เงินมา 6,000 บาท และใช้เงินเก็บสะสมมา ไปจ่ายค่าเทอมได้ และโชคดีที่มีคุณครูมาเยี่ยมบ้านและนำข้อมูลไป จนมีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งตนเองรู้ปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก

นายศุกลวัฒน์ อินอาด หรือ น้องเวียร์ กล่าวว่า ตนเองสอบเข้าเรียนได้ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคเหนือ ในห้องสมาร์ท เอกวิทย์-คณิต ซึ่งตนเองก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ที่สามารถสอบได้ แต่เนื่องจากฐานะยากจน ที่ผ่านมาตนเองได้ไปของานทำกับพระอธิการพบธรรม ธมฺมตฺถรํสี เจ้าอาวาสวัดบ้านแถว ได้เงินมานิดๆหน่อยๆ ก็เก็บไว้ เพื่อเป็นทุนการศึกษา โดยในเทอมแรกที่เรียนนั้น เงินก็ไม่เพียงเท่าไรนัก แต่ยายวันลา ก็ขายหมู ที่เลี้ยงไว้ มาช่วยจ่ายเทอมด้วย ซึ่งตนดีใจมากที่มีผู้ใหญ่ใจบุญมาให้การช่วยเหลือตนเองในครั้งนี้

ด้านนางประภาพรรณ คำรังษี ครูที่ปรึกษา กล่าวว่า เทอมแรกของนักเรียน ก็จะมีโครงการเยี่ยมบ้าน ซึ่งหลังจากมาเห็นบ้านของน้องเวียร์ นักเรียนชั้น ม.4 ก็ทราบว่ามีฐานะไม่ดีนัก แต่ตัวนักเรียนเองก็ไม่พูด ไม่บอกกับใคร ทำให้ตนเองนำข้อมูล ไปแจ้งให้ทางโรงเรียน จนกระทั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือ น.ส.สุภาวดี สกุลใจฉ่ำ พนักงานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กพมจ.พิษณุโลก กล่าวว่า ทางพม. ได้มีการช่วยเหลือน้องเวียร์ มาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนช่วงออกหน่วยบำบัดทุกข์บำรุงสุข เดือนพฤษภาคมปี 65 เป็นเงินเด็กครอบครัวยากจน จำนวน 1,000 บาท ครั้งนี้มาช่วยในเรื่องเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย จำนวน 3,000 บาทพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค

และในปี 67 จะช่วยเหลือเงินสงเคราะห์ช่วยเด็กในครอบครัวอุปถัมภ์ เดือนละ 2,000 บาท ช่วยเหลือจนกระทั่งน้องอายุ 18 ปี คาดเดือนตุลาคม 66 นี้จะได้เงินอุปถัมภ์ก้อนนี้แล้ว ส่วนน้องหากต้องการหาอาชีพเสริม พม.ก็จะพิจารณาให้ทุน จำนวน 5,000 บาทเป็นทุนแบบให้เปล่าเพื่อให้เป็นทุนตั้งต้นการประกอบอาชีพ แต่น้องต้องเขียนโครงการอาชีพ มาขอทุนดังกล่าวที่ พม. ขณะที่นางดนิตา สมจิตต์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ในวันนี้ทางสมาคม แม่บ้านมหาดไทย ได้รวบรวมเงินกันได้ 22,100 บาท และแม่บ้านมหาดไทยเพิ่มเติมให้ 2,000 บาท กาชาดจังหวัดพิษณุโลก 3,000 บาทพร้อมมอบถุงยังชีพพัดลมมุ้งผ้าห่ม โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคเหนือได้มอบเงินช่วยเหลือ 3,000 บาท พมจ.ได้มอบเงินช่วยเหลือ 3,000 บาท ผู้นำท้องถิ่นผู้นำท้องที่ อบต. แม่ระกา รวบรวมเงินได้อีก 3,000 บาท มอบช่วยเหลือคุณยายเป็นการเบื้องต้น

นอกจากนี้ทางกาชาดจังหวัดพิษณุโลกยังได้อุปการะด้านการศึกษา ให้กับ น้องเวียร์ เป็นเงินค่าเทอม เทอมละ 5,000 บาท พร้อมค่าใช้จ่ายในการ เรียนอีกเดือนละ 1,000 บาท จนกว่าจะเรียนจบชั้น ม.6 ค่าใช้จ่ายศึกษาดูงานเทอมละ 5,500 บาท โดยทางเหล่ากาชาดและคณะแม่บ้านมหาดไทย จะช่วยเหลือ จนกว่าจะเรียนจบชั้นม. 6 รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 85,000 บาท โดยจะโอนจ่ายให้กับทางโรงเรียน เนื่องจากว่าน้องเรียน เรียนดีได้เกรดเฉลี่ย 3.98 ในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ทั้งที่น้องไม่ได้เรียนพิเศษหรือได้ ติวพิเศษแต่อย่างใด นอกจากนี้เนื่องจาก น้องเวียร์มีความฝันอยากเป็นคุณหมอ ตนจะได้พูดคุยกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกให้ช่วยในเรื่องการหาทุน อาจเป็นทุน พระนเรศวร หรือเป็นทุนช่วยน้องเรียนดีแต่ยากจน เพื่อส่งน้องเรียน เพื่อช่วยเหลือ ให้น้องได้สำเร็จการศึกษา ชั้นปริญญาตรีและได้เป็น คุณหมอตามที่ตั้งใจ ผู้ใจบุญช่วยเหลือผ่าน ธนาคารกรุงไทย สาขาวังทอง เลขบัญชี 602-06-49-539 ชื่อบัญชี นายศุกลวัฒน์ อินอาด หรือติดต่อทางเบอร์โทรศัพท์ 094-957-61 87