ครูสงสัยนักเรียนชั้น ป.2 หายตัวไปช่วยพักเที่ยง แอบตามไปดู เห็นภาพที่รั้วโรงเรียนถึงกับน้ำตาซึม อายุแค่ 9 ขวบ แต่แบกความรับผิดชอบไว้เต็มบ่า
เว็บไซต์ Sohu รายงานว่า ที่โรงเรียนประถมในเมืองหนานหยาง มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน เด็กชายวัย 9 ขวบ นักเรียนชั้นประถมปีที่ 2 คนหนึ่ง ใช้ช่วงเวลาพักกลางวันแอบออกจากห้องเรียน และเอาข้าวของตัวเองให้แม่ที่มีอาการทางจิต ขณะที่เขานั่งกินอาหารเหลือจากเพื่อนเงียบ ๆ การกระทำเล็ก ๆ นี้ไม่เพียงแต่ทำให้ครูประทับใจ แต่ยังทำให้ผู้คนในโลกออนไลน์น้ำตาไหล
ในบ่ายวันหนึ่งที่แสงแดดสดใส บรรยากาศในสนามโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในเมืองหนานหยางเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความสุข หลังจากมื้อกลางวันเสร็จสิ้น นักเรียนต่างกลับเข้าไปในห้องเรียนเพื่อเตรียมตัวพักผ่อน แต่ครูหวัง ครูประจำชั้น กลับพบว่า เสี่ยวหมิง (นามสมมติ) เด็กชายที่ปกติสงบเสงี่ยม หายไป
ด้วยความสงสัยและห่วงใย ครูหวังจึงเดินออกจากห้องเรียนและเริ่มมองหาทั่วบริเวณ เมื่อเธอมาถึงประตูโรงเรียน สิ่งที่เห็นทำให้เธออึ้งไป เสี่ยวหมิงยืนอยู่ข้าง ๆ แม่ของเขาที่นั่งคุกเข่ากินข้าวในกล่องอาหารอย่างรีบเร่ง ขณะที่เสี่ยวหมิงยืนเงียบ ๆ ข้าง ๆ และลูบหัวแม่ด้วยความรักและความห่วงใยในดวงตาของเขา
ครูหวังเดินไปถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่า “ใครเป็นคนให้ข้าวเธอ?” เจ้าหน้าที่ตอบว่า “เป็นลูกชายของเธอเอง”
เมื่อเห็นคุณครูเดินมา เสี่ยวหมิงตกใจและพยายามวิ่งหนี แต่ครูหวังเรียกเขาหยุดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เจ๋งมากเลยนะ ที่รู้จักหาข้าวให้แม่ทาน”
ครูหวังช่วยพาแม่ของเสี่ยวหมิงมานั่งลงบนม้านั่งหินและกินข้าวต่อไป จากนั้นจู่ ๆ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นในใจของเธอ “แล้วเสี่ยวหมิงเองกินอะไรล่ะ?”
เสี่ยวหมิงก้มหน้าลง เสียงเบามากจนแทบไม่ได้ยิน “ข้าวที่เพื่อน ๆ กินไม่หมด ผมกินแทน…”
คำพูดนี้เหมือนมีมีดคม ๆ ทิ่มแทงหัวใจของครูหวังทันที น้ำตาของเธอเริ่มรินไหล
แท้จริงแล้ว พ่อของเสี่ยวหมิงเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ แม่ของเขามีปัญหาทางจิตใจและไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ตอนนี้เสี่ยวหมิงและแม่ต้องพึ่งพาการดูแลจากลุงเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตไปได้
แม้ชีวิตจะยากลำบาก เสี่ยวหมิงก็ไม่เคยบ่น เขาไม่รังเกียจแม่ และไม่รู้สึกอาย แต่กลับใช้มือเล็ก ๆ ของเขาดูแลแม่อย่างเต็มที่ ในวัยที่ควรจะเป็นวัยของการต่อต้าน เขากลับแสดงออกถึงความเป็นผู้ใหญ่และความรับผิดชอบที่เกินวัย
ครูหวังรู้สึกซาบซึ้งอย่างลึกซึ้ง เธอตัดสินใจว่า ถ้าแม่ของเสี่ยวหมิงมาที่โรงเรียนอีกครั้ง เธอจะออกเงินซื้ออาหารให้แม่ของนักเรียนเอง
การตัดสินใจนี้ไม่เพียงแค่เป็นการสนับสนุนเสี่ยวหมิง แต่ยังเป็นการยืนยันถึงความจริงใจและความกตัญญูที่บริสุทธิ์ของเด็กชาย
หลังเรื่องราวของเด็กชายถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย ขณะที่บางส่วนก็ตั้งคำถามเรื่องระบบสวัสดิการสังคมและการศึกษา อาทิ
“ทำไมเราไม่ประหยัดทุนการศึกษาจำนวนมากที่ให้กับนักศึกษาต่างชาติ เพื่อมาแจกจ่ายให้กับครอบครัวที่ยากจนภายในประเทศแทน?”
“คนแก่อย่างผมร้องไห้ไปเลย ตอนนี้ผมรู้สึกว่าเป็นคนที่น้ำตาไหลง่ายจริง ๆ ถึงแม้ว่าผมช่วยอะไรพวกเขาไม่ได้ แต่ขอให้พรให้พวกเขามีชีวิตที่สุขภาพดี ผมหวังว่าใครก็ตามจะให้ความเมตตากับพวกเขา”
และ “เห็นภาพนี้แล้วน้ำตาไหล! ทำไมถึงมีเหตุการณ์แบบนี้?? ลองคิดถึงมหาวิทยาลัยที่ให้คนต่างชาติเรียนฟรีโดยไม่สนใจผลการเรียน และยังให้เงินใช้จ่ายปีละหลายหมื่นหยวน!