ครอบครัวแสบ โดนเตือนเมาเสียงดัง แกล้งใช้ผ้ายัดท่อเปิดก๊อกทิ้งไว้จนน้ำทะลักห้อง

Home » ครอบครัวแสบ โดนเตือนเมาเสียงดัง แกล้งใช้ผ้ายัดท่อเปิดก๊อกทิ้งไว้จนน้ำทะลักห้อง


ครอบครัวแสบ โดนเตือนเมาเสียงดัง แกล้งใช้ผ้ายัดท่อเปิดก๊อกทิ้งไว้จนน้ำทะลักห้อง

ครอบครัวแสบ เช่าหอ 4 วัน ฉุนโดนเตือนเมาเสียงดัง ย้ายหนี แกล้งใช้ผ้ายัดท่อเปิดน้ำทิ้งไว้ทั้งคืนไหลท่วมห้อง เจ้าของสุดทนโพสต์เตือนภัยหออื่น หวั่นครอบครัวไปก่อเหตุซ้ำ

วันที่ 4 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปเตือนภัย ให้ระวังผู้เช่าหอ โดยระบุข้อความว่า สามคนพ่อแม่ลูก มียานพาหนะเป็นรถพ่วง มาเช่าหอพักได้สามวัน เขาจะมีรถพ่วงข้างมาเช่าหอ ชอบทะเลาะกับเมียรบกวนห้องข้างๆ เราทนไม่ไหวเลยไปตักเตือน เขาทำทีไม่พอใจ ตกกลางคืนขนของออกโดยไม่บอกทางหอพัก และยังเปิดน้ำทิ้งไว้ทั้งคืน

ที่สำคัญได้เอาขยะยัดท่อและผ้ามาอุดท่อน้ำทิ้งเพื่อไม่ให้ไหลลงท่อจนทำให้น้ำท่วมในห้องสร้างความเสียหายให้กับประตูห้อง ถ้าหอพักไหนรับไว้ก็ดูดีๆนะคะ มันขโมยผ้าม่านหน้าต่างไปด้วย นอกจากนี้ทางเจ้าของหอพักยังได้มีการนำคลิปวิดีโอที่น้ำท่วมห้องเมื่อเปิดห้องออก น้ำจะไหลออกจากห้องอย่างรวดเร็วและมีเสื้อเก่ายัดท่อระบายน้ำในห้องน้ำ มีถุงขยะดำขนาดใหญ่วางอยู่ใกล้ก๊อกน้ำในห้องน้ำนอกจากนี้ก๊อกน้ำยังมีถุงรัดด้วยเสื้อผ้าเก่าขณะที่ยังมีการเปิดน้ำอยู่เพื่อป้องกันเสียงดังของน้ำที่ไหล

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับกับนางโสภา อายุ 55ปี เจ้าของหอพัก ตั้งอยู่ในหมู่บ้านน้ำหลง หมู่ 10 ต.สันโป่ง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยหอพักดังกล่าวเป็นหอพักชั้นเดียวมีทั้งหมด 8 ห้อง จะมีรั้วกั้นไว้ระหว่างห้องพัก แบ่งเป็นสัดส่วน ซึ่งห้องที่เกิดเหตุนั้นเป็นห้องหมายเลข 3 โดยนางโสภาได้พาไปดูร่องรอยน้ำตามขอบผนังห้องและประตูหน้าห้องที่บวมจากการถูกน้ำท่วม ภายในห้องน้ำยังมีถุงผ้ากองใหญ่และเศษผ้าที่ใช้อุดท่อซุกอยู่ในถุงขยะดำ และหน้าต่างที่ว่างเปล่าเพราะผ้าม่านถูกขโมยไป

นางโสภา เจ้าของหอ เล่าว่าเมื่อวันที่ 20 เม.ย.2566 ได้มีครอบครัวหนึ่งพ่อแม่อายุราว 50 ปี และลูกสาวที่กำลังวัยรุ่น ขี่รถจยย.พ่วงข้างมาและ ได้เข้ามาติดต่อหอพัก ตนจึงบอกว่าหอพักคิดค่าเช่าเดือนละ 1,000 บาท และค่ามัดจำล่วงหน้าอีก 500 บาทร่วมเป็น 1,500 บาท แต่ครอบครัวนี้บอกว่ามีเงินเพียง 900 บาท ขอเช่าอยู่ก่อนได้หรือไม่ ถ้าทำงานรับจ้างได้เงินแล้วจะนำมาจ่ายส่วนที่เหลือตนรู้สึกสงสาร จึงตกลงให้ครอบครัวนี้อยู่

นางโสภา เล่าต่อว่า แรกๆก็อยู่กันปกติ แต่หลังจากนั้นตัวผู้ชายได้ออกไปดื่มสุรากลับมาเอะอะเสียงดังภายในห้องพักทะเลาะกับภรรยาตี1-ตี2 ผู้เช่าหอพักรายอื่นมาบอกเธอก็ได้ไปว่ากล่าวตักเตือนรอบแรก ก็จบไปแล้วเธอก็นึกว่าทางครอบครัวนี้จะฟัง ต่อมาอีกวันทะเลาะกันอีกเธอก็ไปบอกอีกว่าถ้าหากทำเสียงดังอีกเธอจะไม่ให้พักที่นี้แล้วซึ่งฝ่ายสามีทำหน้าไม่พอใจ ซึ่งเธอก็ไม่เอะใจอะไร กระทั่งกลางดึกของคืนวันที่ 24 เม.ย.2566 ครอบครัวนี้ก็ได้ขนของหนีไป ที่ร้ายไปกว่านั้นได้เปิดน้ำในห้องน้ำทิ้งไว้โดยการนำดิน เศษขยะและเศษผ้า ยัดท่อระบายน้ำไว้เพื่อป้องกันเสียงน้ำดัง

และต้องการให้น้ำไหลท่วมห้องให้ห้องพักของเธอเสียหาย ซึ่งตอนแรกเธอก็ไม่ทราบว่าครอบครัวนี้หนีเแต่เมื่อเช้าวันที่ 25 เมษายน 66ได้มีผู้เช่าห้องข้างๆได้เดินไปบอกที่บ้านว่ามีน้ำไหลออกจากห้องหมายเลข 3 เธอเปิดเข้าไปถึงกับผงะเพราะในห้องดังกล่าวนั้นมีแต่น้ำไหลนองเต็มหมดทั่วพื้น น้ำท่วมเกือบจะถึงปลั๊กไฟที่ต่อไว้หัวนอน ตนรู้สึกตกใจมากจึงต้องรีบตัดไฟก่อนเพราะกลัวว่าจะถูกไฟฟ้าดูด ก่อนจะเข้าไปดูในห้องและเร่งเปิดทางระบายน้ำ

เหตุการณ์นี้ ตนตกใจเป็นอย่างมากเพราะตั้งแต่เปิดให้เช่าหอพักมา 2 ปีกว่าไม่เคยพบเจอผู้เช่าหอในลักษณะนี้เหตุการณ์ครั้งนี้เธอก็ไม่ได้แจ้งความแต่อย่างใดถือว่าฟาดเคราะห์ไปและต่อไปเวลาใครจะมาเช่าหอจะต้องมีการตรวจสอบประวัติอย่างดีเพราะการใจดีของเธอนั้นกลับมาสร้างความเดือดร้อนให้กับเธอเอง ดังนั้นจึงได้นำเรื่องราวดังกล่าวไปโพสต์เตือนภัยเพื่อให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับเจ้าของหอพักเพราะเกรงว่าครอบครัวนี้จะไปก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้หอพักอื่นอีก

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ