วันที่ 7 มิถุนายน 2566 ที่พรรคเพื่อไทย นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม เดินทางเข้าร่วมประชุม 8 พรรคร่วม เรื่องของวัน เวลา และกำหนดการ นับแต่วันนี้ไปจนถึงวันเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยจะกำหนดรายละเอียดการทำงานโดยคาดคะเนจากการทำงานของ กกต. เพื่อให้จัดทำนโยบายได้ทันแถลงต่อรัฐสภา
โดย นายปิติพงศ์ พรรคเป็นธรรม ได้มีการให้สัมภาษณ์ถึงประเด็น คดีหุ้นสื่อ หรือ หุ้นITV ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตพรรคก้าวไกล ที่กำลังก่อปัญหาให้กับตัวนายพิธาหลังมีคนเข้าร้องเรียนอาจเข้าข่ายขาดคุณสมบัติการลงสมัคร แม้ว่าเรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องภายในของพรรคก้าวไกล แต่ตลอดระยะเวลาที่พรรคร่วมจับมือกัน นายปิติพงศ์ เคยแถลงอยู่หลายครั้งว่าพร้อมช่วยเหลือ
- ด่วน! ‘ไฟไหม้รถทัวร์’ เพลิงไหม้ลุกท่วม ทางด่วนใกล้ สถานีกลางบางซื่อ
- พรรคก้าวไกล โดน คดีอิลูมินาติภาค 2 กกต.สอบ รูปค้อนเคียว หมายความว่าไง
- สุราก้าวหน้า พิธา พรรคก้าวไกล โดนอีกดอก ศรีสุวรรณ จี้ ผิดพูดชื่อเหล้า
ซึ่ง นายปิติพงศ์ กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า กรณีหุ้นสื่อไอทีวี ของ นายพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตนมองว่า เรื่องราวอาจเป็นไปตามที่ นายพิธา เคยได้ชี้แจงไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามทางทีมกฎหมายของพรรคเป็นธรรม พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในคดีนี้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่า พรรคก้าวไกล จะขอความช่วยเหลือในครั้งนี้หรือไม่ ตนยังมองถึงการไต่สวนเพิ่มเติมของ กกต.ว่าคดีดังกล่าวขัดต่อมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ นั้นถือว่าเป็นการปฏิบัติตามข้อร้องเรียนอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้น กกต. อาจผิดมาตรา 157 พร้อมย้ำว่ากรณีดังกล่าวไม่เป็นอุปสรรคของการจัดตั้งรัฐบาล
มาตรา 151 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. 2561 แก้ไขเพิ่มเติม 2566 ว่าด้วย ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะ ต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำหนังสือยินยอม ให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น มีกำหนด 20 ปี
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ว่าด้วย ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความผิดตามมาตรา 157 แบ่งได้ 2 ฐานคือ
1. ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด
2. ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตทั้งสองฐานความผิดจะต้องมีองค์ประกอบสำคัญ คือ 1.เป็นเจ้าพนักงาน 2.ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY