ทุกวันนี้มือถือเรียกว่าเป็นมากกว่าอวัยวะที่ 33 ของร่างกายเราไปแล้ว และมีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่ใช้ Smart Phone ที่มีราคาแพงมากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งผู้ให้บริการอย่าง AIS ก็มีบริการ AIS Care+ ที่เพิ่มความอุ่นใจได้มากขึ้น แต่อาจจะยังไม่พอสำหรับคนใช้ iPhone
ล่าสุด Sanook Hitech ได้มาพูดคุยกับบริการทั้ง 2 บริการอย่าง AIS Care+ และ Apple Care+ เข้าด้วยกัน เพราะก่อนหน้านี้ AIS เป็นตัวแทนจำหน่ายบริการ Apple Care+ จะดีแค่ไหนเรามาดูกัน
Apple Care+ คืออะไร
เป็นบริการคุ้มครองอุปกรณ์ของ Apple ที่มี จุดเด่นคือ
- จะคุ้มครองเรื่องอุบัติเหตุ โดยอาจจะมีการจ่ายเงินค่าส่วนต่าง 1,000 – 3,000 บาท (ยังดีกว่าจ่ายค่าอะไหล่ + ค่าแรงเอง) ไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อปี
- เคลมแบตเตอรี่ได้แม้ว่าจะใช้เกิน 1 ปีแต่ไม่เกิน 2 ปีได้
- ได้รับการสนับสนุนเรื่อง Software จาก Apple ผ่านการติดต่อสื่อสารออนไลน์ผ่านเครื่อง
AIS Care+ คืออะไร
เป็นบริการเกี่ยวกับการป้องกันอุบัติเหตุของเครื่องทั้งการทำเครื่องตกจนจอแตก, ตัวเครื่องเสีย, ตัวเครื่องสูญหาย(จะเปลี่ยนเครื่องแต่ราคาจะแล้วแต่รุ่น) และรวมถึงเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ฟรี ทั้งนี้จะไม่รองรับบริการเกี่ยวกับการติดต่อและ Support ของ Apple
การรวมทั้ง 2 บริการเป็นอย่างไร
สำหรับ AIS Care+ With Apple Care Service เป็นการรวมบริการระหว่าง 2 บริการทำให้เกิดจุดเด่นมากมายเช่น
- สามารถบริการทั่วโลกผ่าน Apple Care+
- ขอเปลี่ยนเครื่อง กรณีที่เกิดความเสียหาย, สูญหาย หรือไม่ถูกใจ ทำได้ได้ 2 ครั้ง ในเวลา 1 ปี ซึ่งถ้าจ่ายค่าบริการอย่างต่อเนื่องก็จะได้รับเช่นเดียวกัน มีค่าใช้จ่าย 25%
- เปลี่ยนชิ้นส่วนได้ รวมถึงเปลี่ยนแบตเตอรี่เมื่อเสื่อมฟรี
- ติดต่อกับทาง Apple Support
- ทั้งหมดสามารถจัดการซ่อมและเปลี่ยนให้จบได้ในเวลา 1 วันเท่านั้น (กทม ภายใน 6 ชั่วโมง)
- สามารถติดต่อรับเครื่องได้โดยไม่ต้องไป Shop
เงื่อนไขในการซื้อ
สำหรับการซื้อบริการ AIS Care+ With Apple Care Service นั้นจะมีเงื่อนไขดังนี้
- ราคายังอยู่เท่าเดิมกับ AIS Care+
- สำหรับคนที่ถือ iPhone 15 ตั้งแต่วันเปิดตัว สามารถเปลี่ยนได้โดย *534*4# ตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน 2566 – 20 มีนาคม 2567)
- จะต้องเป็นลูกค้าแบบรายเดือนเท่านั้น
- สามารถเลือกซื้อได้แบบรายปี และ รายเดือน
- สำหรับรายปี จะนับในปีแรกเท่านั้นหลังจากนั้นจะเป็นรายเดือนจนกว่าจะหยุดและเปลี่ยนเครื่อง
- บริการนี้สามารถสมัครได้เมื่อซื้อผ่านร้าน AIS Shop, AIS Telewiz, iStudio, Jaymart, TG
- จะต้องซื้อภายใน 30 วันนับจากวันที่ซื้อเครื่อง
- บริการนี้รองรับกับ iPhone ทุกรุ่น
ทาง AIS กล่าวว่าบริการนี้ยังไม่รองรับ Apple Watch และ iPad ซึ่งคาดว่าจะรองรับในอนาคต และ AIS เผยว่าบริการนี้ผู้ใช้งานค่อนข้างนิยมเพราะคนที่ใช้งานก็คงตระหนักดีว่าผู้ใช้งานจำเป็นต้องมีเครื่องบริการนี้ถือว่าอุ่นใจ แต่ว่า ไม่ได้เป็นประกันเพิ่ม คิดว่าซะว่าเป็นการซื้อบริการ
ส่วนอนาคตจะมีการจับมือกับค่ายอื่นอีกหรือไม่คงต้องรอติดตามกันต่อไปเพราะเชื่อว่าถ้าเริ่มจาก Apple แล้วมันดี ค่ายอื่นก็จะดีเช่นเดียวกันครับ