“ชัยธวัช-ก้าวไกล” เมิน “ทักษิณ” ประกาศอยากได้เชียงใหม่คืน ชี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน
นายชัยธวัช ตุลาธน สส.แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์หลังขึ้ปราศรัยเวที ก้าวไกล Policy Fest จังหวัดเชียงใหม่ ถึงการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จังหวัดเชียงใหม่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ประกาศว่าอยากได้พื้นที่นี้กลับคืนมาทำให้มีความกังวลหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่มีความกังวล ตนคิดว่าทุกพื้นที่ในประเทศนี้ไม่ใช่ของใคร เป็นการส่วนตัว ดังนั้น อนาคตจะเป็นอย่างไรไม่ใช่บอกว่าใครจะเอาคืน แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจว่าเจ้าของตัวจริงคือพี่น้องประชาชนในแต่ละพื้นที่ ว่าอยากเห็นอนาคตแบบไหน
ในฐานะเป็นพรรคการเมืองที่ขับเคลื่อนเรื่องกระจายอำนาจ ให้ความสำคัญเรื่องบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พรรคก้าวไกลจึงเสนอตัวขึ้นมาว่าเราอยากทดลองทำงานให้พี่น้องประชาชนเห็น ไม่ใช่เฉพาะคนเชียงใหม่ แต่ให้คนทั้งประเทศได้เห็นว่าถ้าพรรคก้าวไกลมีโอกาสได้บริหาร โดยอาจจะเริ่มต้นจากจังหวัดหนึ่งจังหวัด หรือเทศบาลหนึ่งเทศบาล ว่าเรามีการทำงานที่แตกต่างจากพรรคการเมืองอื่นๆ อย่างไร
ส่วนที่ น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต สส.พรรคเพื่อไทย มาเป็นแนวหนุนพรรคก้าวไกล ไม่ลงแข่งด้วยแล้ว จะทำให้เป็นการแข่งขันระหว่างพรรคก้าวไปและพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายชัยธวัช ยอมรับในพื้นที่เชียงใหม่คู่แข่งขันหลักและจะแข่งขันกันอย่างเข้มข้นก็คือพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล ส่วน น.ส.ทัศนีย์ ไม่ใช่แค่เป็นแนวร่วมหรือกองหนุน แต่มีสถานะ เป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลที่ทำงานด้วยกัน ไม่ว่าจะในระดับท้องถิ่นและระดับชาติในอนาคต
ทั้งนี้ มีรายงานว่าพรรคก้าวไกลได้น้องชายของ น.ส.ทัศนีย์ มาเป็น ผอ.การเลือกตั้งด้วย นายชัยธวัชกล่าวว่า ใช่ แต่ที่มาที่ไปไม่ใช่เพราะ น.ส.ทัศนีย์ ส่งมา แต่นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ รู้จักเป็นการส่วนตัวกับอดีตนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ หรือนายกฯ ไก่ ซึ่งว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.ของเราไม่มีประสบการณ์ การทำงานด้านการเมืองมาก่อน แต่ว่าเป็นคนที่ทำงานด้านนวัตกรรม มีแนวความคิด จึงต้องการกำลังเสริมเพื่อมาช่วยบริหารเตรียมการเลือกตั้งจึงไปชักชวนมาร่วม ด้วยความสัมพันธ์ส่วนบุคคล
- ก้าวไกลเปิดตัว “พันธุ์อาจ ชัยรัตน์” อดีตผอ. NIA ลงสนามเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่
สำหรับมีแนวโน้มว่า นายกฯ อบจ.เชียงใหม่ จะลาออกเพื่อชิงความได้เปรียบหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประเมินยาก แต่เราทำได้แค่เตรียมพร้อมให้ดีที่สุดตลอดเวลา ซึ่งในหลายพื้นที่เราได้เร่งดำเนินการเพราะมีความเป็นไปได้ที่จะมีนายกหรือผู้บริหารท้องถิ่นที่จะลาออกก่อนกำหนดเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ต้องการให้พักคู่แข่งมีความพร้อมในการแข่งขัน ดังนั้น ทุกที่ที่เราวางเป้าหมายว่าเราจะส่งผู้สมัครหรือเป็นพื้นที่ที่เราคิดว่าเราควรจะส่งด้วยปัจจัยอื่นๆไม่ว่าจะเป็นความพร้อมของผู้สมัครและทีมงาน เราก็เร่งแล้วเพื่อให้พร้อมรับทุกสถานการณ์
อย่างไรก็ตาม การดึงตระกูลบูรณุปกรณ์มาช่วย จะทำให้พรรคก้าวไกลสลัดบ้านใหญ่ไม่ออกหรือไม่ นายชัยธวัช คิดว่าประเด็นอยู่ที่แนวทางและวิธีการทำงานที่แตกต่างกันไปมากกว่า ตนเคยพูดในหลายพื้นที่ว่าพรรคก้าวไกลหรือพรรคอนาคตใหม่เราไม่ได้ปฏิเสธหรือตัดสินคนที่นามสกุล หรือเป็นตระกูลการเมือง เราไม่ตัดสินคนไปเลยตั้งแต่ต้น แต่เราร่วมทำงานได้ ถ้าหากว่าเห็นด้วยกับแนวทางใหม่ๆของพรรคก้าวไกลเป็นเรื่องสำคัญมากกว่า รวมถึงวิธีการทำงานที่ไม่ได้แตกต่างจากอดีต