กู้ภัยยุติภารกิจค้นหาศีรษะ เหตุหลานชายฆ่าโหดนำไปทิ้งในบ่อดิน หลังค้นหามา 2 วัน แต่ไม่มีวี่แววว่าจะพบรอให้ลอยขึ้นมาเอง ผู้ก่อเหตุยันไม่เสียใจ คิดดีแล้ว
จากคดีสะเทือนขวัญ นายเกียรติศักดิ์ อายุ 36 ปี หรือเอก ใช้มีดไล่ฟันและฆ่าตัดศีรษะ นายวาสนา อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นอาแท้ ๆ แล้วนำศีรษะไปทิ้งในบ่อทราย เหตุการณ์ ในพื้นที่หมู่1 บ้านหนองจอก ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เมื่อวานนี้โดยอ้างว่าโกรธแค้นที่ผู้ตายไปต่อว่าพ่อหาว่าไปขโมยทีวี
คืบหน้า วันที่ 28 มี.ค. 66 นักประดาน้ำของกู้ภัย 4 หน่วย ทั้งหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีท่งเซียเซี่ยงตึ้งหาดใหญ่และชุดประดาน้ำมูลนิธิช่งเต๊กเซี่ยงตึ้ง อ.เมืองพัทลุง ชุดประดาน้ำมูลนิธิกู้ภัยร่มไทร จ.สตูล และหน่วยกู้ภัยรัตภูมิธรรมาวาส ช่วยกันดำน้ำค้นหาศีรษะ
เริ่ม 2 รอบ รอบเช้าตั้งแต่ช่วง 10 โมงครึ่งและรอบบ่ายตั้งแต่บ่ายโมงครึ่ง จนกระทั่งถึงเวลาบ่าย 2 โมงครึ่ง หน่วยกู้ภัยก็ต้องยกเลิกการค้นหา เนื่องจากไม่มีความเป็นไปได้ที่จะหาเจอ
นายกิตตินัย ชุณหพันธ์ หนึ่งในทีมนักประดาน้ำจากหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี(ท่งเซียเซี่ยงตึ้ง)หาดใหญ่ กล่าวว่า การดำน้ำค้นหาตลอดทั้ง 2 วัน ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบ จึงจำเป็นต้องยกเลิกภาระกิจ เพราะความเป็นไปได้ในจุดที่ลงไปงมหาตามที่ผู้ต้องหาให้การนั้นแทบไม่มี รวมทั้งได้ขยายพื้นที่ดำน้ำค้นหาออกไปอีก 400 เมตร ก็ยังไม่เจอ ซึ่งระดับน้ำในบ่อดินลึกประมาณ 6-7 เมตร และบางจุดก็มีอุปสรรคต้นไม้ใหญ่จมอยู่ในน้ำและเป็นโพรงซึ่งหน่วยกู้ภัยก็เข้าไปสำรวจแล้วแต่ก็ไม่พบ หลังจากนี้ต้องรอให้ลอยขึ้นจากน้ำเองซึ่งอาจใช้เวลา 2-3 วัน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะยกเลิกภาระกิจการดำน้ำค้นหา แต่หน่วยกู้ภัยได้ใช้วิธีปูพรมเดินเรียงหน้ากระดานจากบ่อทรายขึ้นไปบนเขาที่เป็นป่าสวนยางและทะลุไปยังบ้านเกิดเหตุได้ เพราะไม่แน่ว่าผู้ต้องหาอาจจะนำไปทิ้งในป่าก็เป็นได้ แต่หลังปูพรมค้นหาก็ยังไม่เจอ
ด้าน นางถนอม ศรีพิโรจน์ อายุ 62 ปี พี่สาวของคนตาย กล่าวว่า หลังจากที่กู้ภัยยกเลิกการค้นหาศีรษะของน้องชาย ญาติยังมีความหวังว่าจะลอยขึ้นมาเอง เพื่อที่จะรอนำไปประกอบพิธีทางศาสนาซึ่งตอนนี้ตัวยังรออยู่ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ได้ไปเยี่ยม นายเกียรติศักดิ์ หลานชายที่ก่อเหตุที่ สภ.รัตภูมิ และถามว่าเอาศีรษะไปทิ้งที่ไหน ยืนยันว่าทิ้งที่บ่อทรายแห่งนี้และพูดสั้น ๆ แค่นั้น
ส่วนสาเหตุที่โกรธแค้นมาจากอาไปกล่าวหาว่าพ่อของเขาไปขโมยทีวี ซึ่งไปดูถูกพ่อของเขา ทำให้เขาโกรธ แต่ไม่มีใครคิดว่าจะทำกันถึงขนาดนี้ ซึ่งเรื่องนี้มาจากที่พ่อของหลานจะเข้าไปยกทีวีในบ้านของอา แต่อากลับมาทันจึงได้พูดตำหนิไปว่าอย่าทำแบบนี้
ด้าน ญาติอีกคนที่ไปเยี่ยม นายเกียรติศักดิ์ ที่ สภ.รัตภูมิ บอกว่า ตอนไปเยี่ยมอาการเหมือนคนปกติไม่มีอาการของคนสร่างเมายาและ จากการตรวจไม่พบสารเสพติดในร่างกายเหมือนกับไม่ได้เล่นยามาสักพักเพราะไม่มีเงิน เมื่อถามว่าทำไมทำแบบนี้ก็ตอบว่าตัดสินใจดีแล้วไม่เสียใจและยอมรับผลกรรม ส่วนศีรษะยืนยันว่านำไปทิ้งได้บ่อทรายจริง และตอนไปเยี่ยมบอกว่าไม่น่าทำแบบนี้เพราะเป็นญาติกัน แต่ตอบกลับมาว่าตัดสินใจดีแล้วและยอมรับผลของการกระทำหลังจากนี้