หลังจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า นำถ้วยฟุตบอลโลก มาโชว์ที่กรุงพนมเปญ กัมพูชา โดยคริสติยอง การอมเบอ อดีตนักฟุตบอลชื่อดังชาวฝรั่งเศส นำถ้วยให้ สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา และคณะรัฐมนตรีได้สัมผัส ทำให้ทางกัมพูชาที่นำโดย สมเด็จฮุน เซน ได้เสนอข้อเรียกร้องให้ชาติสมาชิกฟุตบอลในอาเซียนเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในอนาคต

ฮุนเซน ระบุว่า จะนำประเด็นการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกของชาติอาเซียนเข้าหารือในการประชุมผู้นำอาเซียนอีกครั้ง

“ในปี 2022 ในฐานะประธานอาเซียน ผมอยากเห็น อาเซียน มีวิสัยทัศน์ และแผนสำหรับการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2034 หรือ 2038 เราจะพิจารณาความเป็นไปได้และขอให้ผู้นำอาเซียนสนับสนุนความคิดริเริ่มนี้และทำให้เป็นไปได้จริงให้ได้”

ทั้งนี้เมื่อปี 2562 ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนแบบเต็มคณะ ครั้งที่ 35 เหล่าผู้นำอาเซียนได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างฟีฟ่า โดย จานนี อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านกีฬาฟุตบอลในอาเซียนไปสู่ระดับมาตรฐานสากล โดยกำหนดความร่วมมือ 4 สาขา ได้แก่ ความมีน้ำใจนักกีฬา การกีฬาเพื่อการพัฒนา โครงการฟุตบอลฟีฟ่าสำหรับโรงเรียน และการเสริมสร้างขีดความสามารถของนักฟุตบอลมืออาชีพ รวมทั้งการที่ชาติอาเซียนที่นำโดย ไทย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และเวียดนาม จะร่วมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ปี 2034

สำหรับชาติที่แสดงความสนใจในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2034 นอกจากชาติอาเซียนแล้วยังมีในโซน โอเชียเนีย คือ ออสเตรเลีย กับ นิวซีแลนด์ และแอฟริกา ซิมยับเว อียิปต์ ไนจีเรีย