ตำรวจทางหลวง กาญจนบุรี จับปรับรถกระบะ บรรทุกสินค้า ราวกับเป็นรถบรรทุก ฝากถึงผู้ใช้รถอย่าหาทำ อาจเกิดอันตรายกับเพื่อนร่วมทางได้
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2565 ด.ต.สราวุธ รังกาแกม หัวหน้าหน่วยบริการประชาชน ตำรวจทางหลวงไทรโยค ด.ต.พีรธรรม หนูนุรัตน์ และส.ต.ท.ธเนศพล ภมร ออกใบสั่งรถกระบะดัดแปลงขนสินค้ายื่นยาวออกมาทางด้านหลัง และสูงขึ้นไปเหนือตัวรถหลายเมตร บริเวณทางหลวงสาย 367 ช่วงกิโลเมตรที่ 3 ในพื้นที่ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 65 ที่ผ่านมา
ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ออกตรวจ อำนวยการจราจร และป้องกันเหตุอยู่บนทางหลวงสาย 367 ได้พบรถกระบะบรรทุกสูงมาก เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดรถเพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย และได้เรียกผู้ขับขี่ลงมาจากรถ ก่อนจะแจ้งว่าการขับรถในลักษณะนี้มีความผิดพร้อมออกใบสั่ง
ด.ต.สราวุธ กล่าวว่า อยากฝากไปถึงผู้ใช้รถใช้ถนนที่อาจจะมีพฤติกรรมใช้รถยนต์กระบะบรรทุกสิ่งของจำนวนมาก ขอให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมในลักษณะนี้ และควรจะหารถที่มีความเหมาะสมในการขนสินค้ามาใช้แทน เนื่องจากการกระทำในลักษณะนี้ อาจสร้างอันตรายให้กับผุ้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นได้ และยังทำให้เสียภาพลักาณ์ของจ.กาญจนบุรี ที่เป็นจังหวัดท่องเที่ยวอีกด้วย
ส่วนรถกระบะที่มีการบรรทุกเกินดังกล่าว ผิดพระราชบัญญัติการจราจรทางบก พุทธศักราช 2552 มาตรา 5 และมาตรา 18 ที่ได้มีการกำหนดเรื่องการบรรทุกของด้านหลังกระบะ โดยระบุว่า
1)การบรรทุกของด้านหลังกระบะจะต้องมีความกว้างไม่เกินส่วนกว้างของตัวรถ 2)ความยาว ด้านหน้าจะต้องไม่เกินกระจังหน้ารถ ส่วนความยาวด้านหลังรถ จะต้องยื่นพ้นตัวรถไม่เกิน 2.50 เมตร 3)ความสูง ในกรณีที่รถมีความกว้างไม่เกิน 2.3 เมตร สามารถบรรทุกสูงจากพื้นได้ไม่เกิน 3 เมตร ส่วนในกรณีที่รถกว้างเกิน 2.3 เมตร สามารถบรรทุกสูงจากพื้นได้ไม่เกิน 3.8 เมตร
4)การบรรทุกสิ่งของด้านหลังกระบะ จะต้องมีการป้องกันสิ่งของที่บรรทุก ด้วยการคลุมผ้าใบ มัดเชือก หรือจัดการป้องกันไม่ให้ของตกหล่น รั่วไหล ส่งกลิ่น หรือสะท้อนแสง ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นได้