กลับมาแล้ว 2 ผัวเมียป่วยโควิดปีนรั้วหนีศูนย์พักคอย อ้างห่วงร้านขายของ เจ้าหน้าที่ลงโทษสั่งวิดพื้น-กระโดดตบ 20 ที 

จากเหตุการณ์ที่สองสามีภรรยาซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิดปีนรั้วหลบหนีออกจากศูนย์พักคอยเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง เมื่อเช้ามืดวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองใหม่และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางบัวทองต้องระดมกำลังค้นหาติดตามตัวสองสามีภรรยาคู่นี้อย่างเร่งด่วนตามข่าวที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้

• ผู้ป่วยโควิด 2 ผัวเมีย ปีนหนีศูนย์พักคอยนนทบุรี หาที่บ้านไม่เจอ เสี่ยงแพร่เชื้อสู่ชุมชน

(4 ก.ย.64) เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมานายสมพงษ์ โต๊ะเฮง สมาชิกสภาเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง เขต 3 ได้รับการติดต่อมาจากนายนำชัย นิสุรง และ น.ส.ประกรแก้ว ลิ้มสกุล สิงสามีภรรยาผู้ป่วยติดเขื้อไวรัสโควิดที่ปีนรั้วหลบหนีการกักตัวจากศูนย์พักคอยของเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทองว่า จะขอกลับเข้ามารับการรักษาตัวเหมือนเดิม ส่วนสาเหตุที่ต้องปีนรั้วหลบหนีออกไปนั้น เป็นเพราะว่าห่วงกิจการร้านขายหินสีหินตกแต่งบ้านซึ่งเปิดร้านขายอยู่ที่ตลาดสมบุติบุรี เนื่องจากต้องปิดร้านและไม่มีคนดูแล

ด้วยความเป็นห่วงร้านจึงชักชวนกันปีนรั้วหนีออกจากศูนย์พักคอยเพื่อไปดูความเรียบร้อยของร้าน เพื่อพบว่าร้านยังอยู่เป็นปกติจึงตัดสินใจโทรแจ้งตน เพื่อขอกลับไปรักษาตัวต่อที่ศูนย์พักคอยตามเดิม ตนจึงได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์พักคอยนำรถไปรับตัวสองสามีภรรยาคู่นี้กลับมา โดยทั้งสองคนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนอยู่ในพื้นที่หมู่ 14 โดยยังไม่ได้เข้าไปหลบหรือพักอาศัยอยู่กับใครหลังจากขี่ไปดูกิจการที่ร้าน 

ต่อมาหลังเจ้าหน้าที่ศูนย์พักคอยเดินทางไปรับและนำตัวสองสามีภรรยาคู่นี้กลับมถึงศูนย์พักคอยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ได้พูดคุยและสอบถามถึงสาเหตุที่ต้องหลบหนีออกไปแล้ว จึงได้สั่งทำโทษสองสามีภรรยาคู่นี้ดังด้วยการให้ฝ่ายชายวิดพื้น 20 ครั้งและฝ่ายหญิงกระโดดตบมือ 20 ครั้งเท่ากัน ก่อนจะนำตัวสองสามีภรรยาคู่นี้เข้าทำการรักษาตัวเฝ้าดูอาการต่อไปโดยทั้งสองสามีภรรยาคู่นี้มีกำหนดครบการกักตัวในวันที่ 7 กันยายนที่จะถึงนี้

ทางด้านนายวิเชียร เจริญนนทสิทธิ์  นายกเทศมนตรีเมืองใหม่บางบัวทอง กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้ทางศูนย์พักคอยจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่และนั่งดูจอมอนิเตอร์อยู่ตลอดก็ตาม แต่ผู้ป่วยได้วางแผนหลบหนีช่ในช่วงเวลาตี 4 ซึ่งเป็นเวลาที่เจ้าหน้าที่บางส่วนอาจจะลุกไปทำธุระหรือดูแลในจุดอื่นบ้าง อาจจะเป็นช่องทางที่เป็นโอกาสให้ผู้ป่วยฉวยโอกาสในการหลบหนี  ซึ่งตนขอยืนยันว่าศูนย์พักคอยแห่งนี้ รับผู้ป่วยติดเชื้อ้ข้ามาดูแลรักษาไม่ได้เข้ามาแบบติดคุก เพราะเมื่อกักตัวเฝ้าดูเชื้อแล้วรักษาหาย ผู้ป่วยก็ได้เดินทางกลับบ้านแล้ว เพราะเวลาตอนไปตรวจพบการติดเชื้อก็อยากเข้ามารักษา แต่พอได้รับการรักษาแล้วกลับอยากหนีออกไปเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเพราะอาจจะนำเชื้อไปแพร่ระบาดสู่บุคคลหรือชุมชนอื่นๆ ได้อีก ในกรณีนี้ถือว่ายังตัดสินใจกลับตัวได้ทัน ไม่ไปกระทำการสุ่มเสี่ยงแพร่กระจายเชื้อให้กับใครอีกในช่วงที่หลบหนี และรีบกลับมาเข้ารับการรักษาตัวต่อ