จากกรณีหญิงสาวโพสต์เฟซบุ๊กเล่าเรื่องราวหลังไปไหว้เจ้าแก้ปีชงกับแฟน 2 คนที่ศาลเจ้าพ่อเสือ เสาชิงช้า แล้วถูกร้านค้าแห่งหนึ่ง คิดราคาชุดไหว้เจ้ากว่า 6,830 บาท ทำเอาชาวเน็ตแห่ไปคอมเมนต์กันจำนวนมาก

เมื่อวันที่ 10 ม.ค. นางนภัสนันท์ บุญยรัตพันธ์ นักวิชาการพาณิชย์ ชำนาญการพิเศษ พร้อมเจ้าหน้าที่กองตรวจสอบและปฏิบัติการ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่สำรวจร้านค้าของไหว้เจ้าในตลาดล็อตเตอรี่ใหม่ข้างศาลเจ้าพ่อเสือ เสาชิงช้า ถนนตะนาว เพื่อตรวจสอบว่าร้านดังกล่าวจำหน่ายสินค้าเกินราคาหรือไม่

นางนภัสนันท์ กล่าวว่า หลังได้รับเรื่องร้องเรียน กองตรวจสอบและปฏิบัติการ กรมการค้าภายใน ได้มาตรวจสอบร้านที่เกิดเหตุ พบว่าร้านดังกล่าวได้ติดป้ายแสดงราคา แต่มีราคาสินค้าสูงกว่าป้าย และสินค้าบางอย่างไม่แสดงราคา เจ้าหน้าที่จึงสำรวจราคาสินค้าเทียบกับร้านอื่นๆ ซึ่งการไม่แสดงราคาสินค้า และจำหน่ายราคาสูงกว่าป้าย มีโทษปรับตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000บาท โดยเราได้ปรับในอัตราต่ำสุด

นางนภัสนันท์ กล่าวอีกว่า ส่วนการขายสินค้าราคาสูงเกินไปหรือไม่นั้น ต้องหาราคาทุนของสินค้า เพื่อวิเคราะห์ว่าราคาสูงเกินความสมควรหรือไม่ ซึ่งเมื่อปี 2564 ได้มาตรวจสอบที่ตลาดแห่งนี้ไปแล้ว 3 ครั้ง พร้อมให้ความรู้ด้านกฎหมาย และปรับบางร้านไป ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ก็ได้เน้นย้ำและตักเตือนผู้ค้าให้ขายในราคาที่เหมาะสม ไม่เอาเปรียบผู้บริโภคเกินไป เพื่อสนับสนุนการค้าการท่องเที่ยว หากผู้บริโภคได้รับความไม่เป็นธรรมจากการใช้บริการต่างๆ ให้ร้องเรียนที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569

ด้านป้าไพร เจ้าของแผงร้านค้าที่เป็นประเด็น เปิดเผยกับข่าวสดออนไลน์ว่า ชายหญิงคู่นี้มาซื้อชุดไหว้เจ้าปีชง ซึ่งตนได้อธิบายว่า ของไหว้ 1 คน มี 5 ชุด 5 จุด ราคาชุดละ 390 บาท มีองค์เสือแยกต่างหาก ซึ่งเขามากันตอนที่ศาลใกล้จะปิดแล้ว ตนก็หวังดี บอกให้เขาไปไหว้ก่อนแล้วค่อยกลับมา ซึ่งได้บอกราคาไปเรียบร้อย

แต่ยอมรับผิดที่ตนไม่ได้บวกราคาเรียบร้อยก่อน จนถึงตอนเขามาโอนเงินก็เรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไร กระทั่งศาลปิด มีคนโทรศัพท์มาหาตน บอกว่าทำไมจัดของแบบนี้ ตนก็บอกว่าถ้าไม่พอใจจะโอนเงินคืนทั้งหมด จึงโอนไปเวลาราว 20.00น.ก่อนที่เขาจะโพสต์เรื่องราวนั้นในอีกชั่วโมงถัดไป จึงขอว่าอย่าฟังความข้างเดียว เพราะก่อนหน้านั้นเขาก็มาคุยกับตนนานตั้ง 10 นาที

ป้าไพร บอกอีกว่า ส่วนที่ผู้หญิงบอกว่ามีคนมาใส่ของเพิ่มข้างในนั้น ตนให้ลูกน้องในร้านเอาของที่ตกลงซื้อกันหน้าร้านไปส่งให้ครบ เพราะถ้าให้ไม่ครบก็รู้สึกไม่สบายใจ ซึ่งที่ให้ไปส่งนั้นก็ถือเป็นบริการ ยืนยันว่าตนไม่โกง ต้องขอโทษผู้ชายและผู้หญิงทั้งคู่ที่ทำอะไรไม่ถูกใจไป ตนไม่มีเจตนา เพราะตนลำบาก วันนั้นทั้งวันไม่ได้ขายเลย ตนไม่โกรธ​