กกต. จ่อพิจารณายื่นฟัน ‘พิธา’ ปมถือหุ้นสื่อ หลังเป็นส.ส. ชี้กม.ไม่เปิดช่องส่งศาล

Home » กกต. จ่อพิจารณายื่นฟัน ‘พิธา’ ปมถือหุ้นสื่อ หลังเป็นส.ส. ชี้กม.ไม่เปิดช่องส่งศาล


กกต. จ่อพิจารณายื่นฟัน ‘พิธา’ ปมถือหุ้นสื่อ หลังเป็นส.ส. ชี้กม.ไม่เปิดช่องส่งศาล

กกต.จ่อพิจารณาคำร้อง ยื่นฟัน ‘พิธา’ ปมถือหุ้นสื่อ หลังรับรองเป็นส.ส.แล้ว เหตุก่อนประกาศผลเลือกตั้ง กฎหมายไม่เปิดช่องยื่นศาลใด

เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีการยื่นคำร้องให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เร่งตรวจสอบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะ ว่าที่นายกรัฐมนตรี ว่ามีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(3) จากการมีชื่อถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด(มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้นหรือไม่ โดยต้องการให้ กกต.ดำเนินการเรื่องนี้ให้ชัดเจนก่อนนายพิธา ได้รับการโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น

มีรายงานว่า สำนักงานกกต. ได้พิจารณาข้อกฎหมาย แล้วเห็นว่า ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. 2561 มาตรา 61 กำหนดเฉพาะก่อนวันเลือกตั้งเท่านั้นที่หาก กกต. เห็นว่าผู้สมัครของพรรคการเมืองใด ไม่มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา ให้ถอนชื่อผู้นั้นออกจากประกาศรายชื่อผู้สมัคร

แต่ขณะนี้เป็นช่วงหลังวันเลือกตั้ง แต่ก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง กฎหมายไม่ได้เปิดช่องให้กกต. ดำเนินการส่งเรื่องนี้ไปให้ศาลใดพิจารณา หากดำเนินการสืบสวนสอบสวนเรื่องดังกล่าวแล้วเสร็จ

ขณะที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคท้าย บัญญัติไว้ว่า กรณีกกต.เห็นว่า สมาชิกภาพของ ส.ส. หรือ ส.ว. คนใดคนหนึ่งมีเหตุสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(6) เนื่องจากมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 ให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยได้ด้วย

ดังนั้น ช่องทางที่กกต.จะดำเนินการเรื่องนี้หากมีมติว่านายพิธา มีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัคร ส.ส.ได้ จะต้องเป็นหลัง กกต.ประกาศรับรองนายพิธา เป็นส.ส.แล้ว ระหว่างนี้การดำเนินการกับคำร้องดังกล่าว จึงเป็นขั้นตอนของการรวบรวมพยานหลักฐาน สืบสวนสอบสวนตามขั้นตอนของระเบียบกกต.ว่าด้วยการสืบสวนและไต่สวน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ