มีการคาดการณ์กันว่า พนักงานออฟฟิศกว่าครึ่งหนึ่งอาจต้องทำงานที่บ้านต่อไปและเป็นชีวิตการทำงานวิถีใหม่ที่ทำให้คุณต้องอยู่กับตนเองและบังคับตัวเองมากขึ้น แม้ว่าจะเป็นเรื่องดีที่ทำให้หลายคนไม่ต้องเดินทางไกล ไม่ต้องเสี่ยงกับการติดเชื้อแต่ในทางกลับกัน การทำงานที่บ้านก็ทำร้ายสุขภาพ และชีวิตความเป็นอยู่ที่ควรจะปกติของคุณให้กลายเป็นไม่ปกติไป ทีนี้มาดูกันดีกว่าว่า Work from Home สร้างผลกระทบด้านใดบ้างให้กับชีวิตคุณ
- เป็นเรื่องยากที่จะแยกเรื่องงานและชีวิตที่บ้านออกจากกันได้
เอาเข้าจริงแล้วการทำงานจากที่บ้านอาจไม่ใช่เรื่องที่เหมือนหลายคนฝันไว้ เพราะการทำงานที่บ้านนั้นสามารถทำร้ายสภาพจิตใจของคุณได้ไม่น้อย เพราะจากที่เคยมีบ้านเป็นเซฟโซนไว้เพื่อปลุกปลอบใจตนเอง เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตอีกแบบที่ไม่ใช่งาน แต่การทำงานที่บ้านเป็นการนำเอางานเข้ามาสู่พื้นที่เซฟโซนของชีวิต และแน่นอนว่าเราไม่สามารถแบ่งชีวิตการทำงานได้อย่างชัดเจนหากยังอยู่ที่บ้าน เพราะถ้าห้องทำงานที่บ้านคือห้องนอน หันหลังไปก็เจอเตียงนอน มองมาที่โต๊ะก็เจอกับงาน เหล่านี้จำให้งานยังคงอยู่ในชีวิตคุณ จนทำให้คุณเครียดโดยไม่รู้ตัว
- คุณได้ลดเวลาที่จะอยู่กับสังคมโดยไม่รู้ตัว
การทำงานที่บ้านอาจทำให้คุณไม่ต้องไปสนใจกับเรื่องเม้าท์ประจำออฟฟิศ หรืออัปเดตชีวิตเพื่อนร่วมงาน แต่ก็นั่นแหละ มันคือชีวิตประจำวันที่ควรจะเกิดขึ้น จากที่เคยใช้ชีวิตวันละ 8 ชั่วโมงกับเพื่อนที่ทำงาน กลับกลายมาเป็นนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์คนเดียว กินข้าวคนเดียว คุณจะรู้สึกเหงาไม่น้อย เพราะหน้าจอคอมพิวเตอร์มีแต่งานและงาน ซึ่งน่าจะทำให้สุขภาพจิตของคุณป่วยไม่น้อย
- เป็นเรื่องยากที่คุณจะกระตุ้นตนเอง
ถ้าคุณต้องทำงานจากบ้าน ก็ขอให้บอกลาคำว่ากระตุ้นตัวเองได้เลย เพราะการทำงานที่บ้านทำให้คุณรู้สึกว่าสบายเพราะไม่ต้องเดินทางไม่ต้องตื่นมาอาบน้ำ แต่งตัว และไม่มีเจ้านายมาคอยตรวจงานที่ด้านหลัง เหนืออื่นใดคุณจะทำงานโดยที่ใส่ชุดนอนอยู่ตลอดวัน ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยเพราะความรู้สึกของคุณจะเฉื่อยชาลง และไม่ได้รู้สึกอยากจะกระตุ้นตัวเองให้งานเสร็จให้เร็วที่สุด แต่จะปล่อยทิ้งไว้ข้ามวันเพราะไม่อยากทำ จนกว่าจะถูกทวงถามอีกครั้ง ถึงได้ทำ
- ขาดการประสานงานที่ดีในทีม
มีรายงานระบุว่าการทำงานจากบ้านนั้นส่งผลทางด้านลบต่องานสร้างสรรค์ เพราะคุณต้องอยู่คนเดียว ในขณะที่การทำงานที่ออฟฟิศ คุณจะต้องเจอกับคนที่ไม่เห็นด้วยหรือเห็นต่างซึ่งนั่นจะทำให้คุณมีความคิดสร้างสรรค์ได้มากกว่า
ขณะเดียวกันการติดต่อประสานงานในทีม ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ค่อยดีนักเมื่อคุณต้องทำงานจากที่บ้าน ยิ่งถ้าต้องการแก้ปัญหาที่ต้องใช้ พลังของทีมเวิร์กเข้ามาช่วยด้วยแล้ว ดูจะเป็นเรื่องไม่ง่ายเลยถ้าแต่ละคนยังอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ และหลายคนน่าจะคิดถึงการไปทำงานที่ออฟฟิศ และมีการระดมสมองเพื่อให้เกิดไอเดียใหม่ๆ ในการทำงาน มากกว่ามานั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่บ้านแล้วรู้สึกมึนตึบไปหมด