ย้อนรอยทีม อินเตอร์ มิลาน ฤดูกาล 2009/10 ทีมชุดที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าเทรเบิลแชมป์ กัลโช เซเรีย อา, โคปปา อิตาเลีย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สำเร็จ โดยนับเป็นการคว้าแชมป์ลีกสูงสุด อิตาลี ครั้งล่าสุดก่อนที่ทัพ เนรัซซูรี ภายใต้การคุมทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ จะเถลิงบัลลังก์แชมป์ลีกเมืองมักกะโรนีซีซัน 2020/21 เป็นที่เรียบร้อย
ผู้รักษาประตูและกองหลัง
Bayern Muenchen v Inter Milan – UEFA Champions League Final | Shaun Botterill/Getty Images
ผู้รักษาประตู: ฮูลิโอ เซซาร์
นายด่าน บราซิเลียน ผู้ปักหลักอยู่กับทัพ งูใหญ่ ยาวนานถึง 7 ฤดูกาลโดยเจ้าตัวช่วงชิงตำแหน่งมือ 1 ของทีมจาก ฟรานเชสโก้ ตอลโด้ ได้ตั้งแต่ซีซันแรกที่ย้ายมาสู่ทีมในฤดูกาล 2005/06 ก่อนที่จะมีช่วงปลายเส้นทางเฝ้าเสากับ ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส, โตรอนโต้ เอฟซี, เบนฟิก้า และแขวนถุงมือกับ ฟลาเมนโก้ ในบ้านเกิด
ผลงานของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้ทำให้เขามีชื่อเป็นหนึ่งใน 25 แคนดิเดทชิง บัลลังดอร์ 2010 ร่วมกับมือกาวอย่าง อิเคร์ คาซิยาส
แบ็คขวา: ไมคอน
ตำนานแบ็คขวาที่ไต่เต้ามาจาก ครูเซโร ในบ้านเกิดก่อนจะโบยบินสู่ โมนาโก และแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการเมื่อย้ายร่วมทัพ เนรัซซูรี ในปี 2006 โดยหลังจาก 6 ซีซันกับพลพรรค เนรัซซูรี เจ้าตัวย้ายไปมีช่วงเวลาสั้นๆ กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ โรมา ตามด้วยการกลับไปค้าแข้งยังบ้านเกิดที่ บราซิล ซึ่งปัจจุบันเขายังคงโลดแล่นบนผืนหญ้าด้วยวัย 39 ปีกับสโมสร โซนา ใน เซเรีย ดี
เช่นเดียวกับ ฮูลิโอ เซซาร์ ผลงานที่ยอดเยี่ยมของ ไมคอน ทำให้เจ้าตัวมีชื่อในลิสต์แคนดิเดท บัลลงดอร์ 2010 ด้วยเช่นกันร่วมกับกองหลังอย่าง คาร์เลส ปูโยล, ฟิลิปป์ ลาห์ม และ ดานี อัลเวส
เซ็นเตอร์แบ็ค: ลูซิโอ
ดาวเตะ บราซิเลียน อีกรายในทีม อินเตอร์ ที่พวกเขาเซ้งมาจาก บาเยิร์น มิวนิค เมื่อเจ้าตัวอายุได้ 31 ปีแต่แม้จะอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของเส้นทางค้าแข้งทว่า ลูซิโอ ก็ปักหลักเป็นตัวจริงให้กับ อินเตอร์ ตลอดระยะเวลา 3 ฤดูกาลที่ จูซเซ็ปเป้ เมอัซซา
เขามีช่วงระยะเวลาสั้นๆ กับ ยูเวนตุส, เซา เปาโล, พัลไมรัส ตามด้วยการพเนจรสู่ โกอา ใน อินเดีย และกลับไปแขวนสตั๊ดกับ บราซิเลียนเซ ใน เซเรีย ดี ที่บ้านเกิด
เซ็นเตอร์แบ็ค: วอลเตอร์ ซามูเอล
ปราการหลังผู้เริ่มต้นเส้นทางค้าแข้งกับ นีเวลลส์ โอลด์ บอยส์ และ โบคา จูเนียร์ส ก่อนจะโบยบินสู่ยุโรปแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการกับ โรมา, เรอัล มาดริด และเส้นทางค้าแข้งของเขาก็บรรจบกับ อินเตอร์ มิลาน ในปี 2005 เมื่อเจ้าตัวอายุได้ 27 ปี
ซามูเอล ใช้เวลาอยู่กับทีม 9 ฤดูกาลก่อนที่จะแขวนสตั๊ดกับ บาเซิล เมื่อปี 2016
แบ็คซ้าย: ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ
มิสเตอร์ อินเตอร์ มิลาน ผู้ย้ายจาก แบนฟิลด์ในบ้านเกิด อาร์เจนตินา สวมยูนิฟอร์ม เนรัซซูรี เมื่ออายุได้ 22 ปีก่อนจะใช้เวลา 19 ปีหลังจากนั้นอยู่โยงกับต้นสังกัดและแขวนสตั๊ดในปี 2014
ปัจจุบัน ซาเน็ตติ ดำรงตำแหน่งรองประธานสโมสร อินเตอร์ มิลาน ด้วยวัย 47 ปี
กองกลางInter Milan’s Argentinian midfielder Est | VINCENZO PINTO/Getty Images
กองกลางตัวรับ: เอสเตบัน คัมบิอาสโซ
มิดฟิลด์ผู้เป็นส่วนเกินของ เรอัล มาดริด ก่อนจะย้ายมาร่วมทัพ อินเตอร์ มิลาน แบบไร้ค่าตัวก่อนที่จะสามารถสถาปนาตนเองเป็นคีย์แมนของพลพรรค เนรัซซูรี ได้ในทันทีตั้งแต่ซีซันแรก เจ้าตัวใช้เวลา 10 ฤดูกาลพอดิบพอดีกับสโมสรก่อนจะใช้เวลา 1 ซีซันกับ เลสเตอร์ ซิตี้, 2 ปีกับ โอลิมเปียกอส และแขวนสตั๊ดเมื่อปี 2017
กองกลาง: เดยัน สแตนโควิช
กองกลางทีมชาติ เซอร์เบีย ที่ทีมไปคว้าตัวมาจาก ลาซิโอ เมื่อปี 2004 ก่อนที่เขาจะกลายเป็นตัวหลักของกับทีมตลอด 10 ฤดูกาลระหว่างซีซัน 2003/04-2012/13
กองกลาง: ติอาโก้ ม็อตต้า
ดาวเตะที่ถูก บาร์เซโลนา กระชากตัวไปปลุกปั้นตั้งแต่อายุได้ 17 ปีทว่าเขาไม่สามารถสอดแทรกกลายเป็นคีย์แมนของทัพ อาซูลกรานา ได้ก่อนจะถูกปล่อยตัวให้กับ แอตเลติโก มาดริด
เขาเล่นให้กับทัพ ตราหมี เพียง 1 ฤดูกาลก่อนที่ เจนัว จะเซ้งเขาไปร่วมทัพและฟอร์มกับสโมสรนี้เองทำให้ อินเตอร์ ซิวเขาไปร่วมทัพและใช้เวลาอยู่กับทัพ งูใหญ่ 3 ฤดูกาลก่อนจะย้ายไป ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และแขวนสตั๊ดกับ เปแอสเช ในที่สุด
กองกลางตัวรุก: เวสลีย์ สไนเดอร์
จอมทัพ ดัตช์แมน ลูกหม้อของ อาแจ็กซ์ ที่แจ้งเกิดกับทีมสำเร็จก่อนจะถูก เรอัล มาดริด ฉกตัวไปร่วมทัพด้วยมูลค่าราว 23 ล้านปอนด์แต่เจ้าตัวไม่อาจลงสนามอย่างสม่ำเสมอกับ ราชันชุดขาว ได้และถูกปล่อยตัวให้กับ อินเตอร์ ด้วยมูลค่าเพียง 13 ล้านปอนด์และเป็นคีย์แมนตลอด 3 ซีซันกับพลพรรค เนรัซซูรี
เจ้าตัวถูกปล่อยตัวให้กับ กาลาตาซาราย ด้วยมูลค่าเพียง 6.5 ล้านปอนด์เมื่อปฎิเสธการต่อสัญญาฉบับใหม่กับต้นสังกัดในปี 2013 ตามด้วยช่วงเวลาสั้นๆ กับ นีซ (2017/18) และแขวนสตั๊ดกับ อัล-การาฟา ใน กาตาร์ เมื่อปี 2019
กองหน้าAC Milan v FC Internazionale Milano – Serie A | Claudio Villa/Getty Images
กองหน้า: ดิเอโก้ มิลิโต้
ดาวยิงผู้แจ้งเกิดกับ ราซิงคลับ ในบ้านเกิดก่อนจะโบยบินสู่ ยุโรป กับ เจนัว ใน กัลโช เซเรีย บี แจ้งเกิดกับ เรอัล ซาราโกซา ในเวลาต่อมาและสามารถยกระดับฝีเท้าตนเองไปอีกขั้นได้กับ อินเตอร์ มิลาน
เจ้าตัวหวนคืนสู่ ราซิง อีกครั้งในวัย 35 ปีก่อนจะแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2016 ด้วยวัย 38 ปี
กองหน้า: ซามูเอล เอโต้
แข้งส่วนเกินของ เรอัล มาดริด ผู้สร้างชื่อโด่งดังสุดขีดกับ บาร์เซโลนา ก่อนที่ความบาดหมางระหว่างเขากับ แฟรงค์ ไรจ์การ์ด จะทำให้ดาวยิงทีมชาติ คาแมรูน ถูกปล่อยออกจากทีมสลับขั้วกับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ในที่สุด
แม้จะใช้เวลาอยู่กับทีมเพียง 2 ฤดูกาลแต่เจ้าตัวก็สามารถกดประตูไปถึง 53 ลูกจากการลงสนามทั้งหมด 102 นัดเมื่อรวมทุกรายการ โดยที่เจ้าตัวมีเส้นทางค้าแข้งไปบรรจบกับทีมอย่าง อันจิ มาคัชคาลา, เชลซี, เอฟเวอร์ตัน, ซามพ์โดเรีย, อันตาลิยาสปอร์, คอนยาสปอร์ ก่อนจะแขวนสตั๊ดกับ กาตาร์ เอสซี ในที่สุดเมื่อปี 2019
ผู้จัดการทีม: โชเซ่ มูรินโญ่Barcelona v Inter Milan – UEFA Champions League | Jasper Juinen/Getty Images
อินเตอร์ มิลาน กลายเป็นหมุดหมายลำดับถัดไปต่อจาก เชลซี ของ โชเซ มูรินโญ หลังจากที่นายใหญ่ชาว โปรตุเกส แยกทางกับ สิงห์บลู อย่างเซอร์ไพรส์
แม้เจ้าตัวจะคุมทัพ เนรัซซูรี เพียง 2 ฤดูกาลแต่ก็เป็นช่วงเวลาที่เขาพาทีมประสบความสำเร็จมากที่สุดช่วงหนึ่ง ไล่เรียงตั้งแต่การประเดิมซีซันแรกด้วยแชมป์ กัลโช เซเรีย อา (2008/09) และเทรเบิลแชมป์ลีกสูงสุด, โคปปา อิตาเลีย กับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก (2009/10)
มูรินโญ รับงานกับ เรอัล มาดริด ในเวลาต่อมา หวนคืนสู่ พรีเมียร์ลีก กับ เชลซี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ โดยเขาเพิ่งจะถูก ไก่เดือยทอง ปลดออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ตัวสำรองที่น่าจดจำInter Milan’s Portuguese coach Jose Mour | GIUSEPPE CACACE/Getty Images
กองหลัง: คริสเตียน คิวู, อิบัน คอร์โดบา, มาร์โก มาเตราซซี, ดาวิเด้ ซานตอน
กองกลาง: ซัลลีย์ มุนตารี, ปาทริค วิเอรา, ริคาร์โด้ กวาเรสมา
กองหน้า: มาริโอ บาโลเตลลี, โกรัน ปานเดฟ