มีรายงานว่ามูลค่าของบริษัท SNAP ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแอปพลิเคชัน Snapchat นั้นลดลงถึง 32,000 ล้านเหรียญ อ้างอิงจาก CNBC สาเหตุมาจากการที่มูลค่าหุ้นที่ลดลงถึง 27% ในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยลดลง 20.04 เหรียญ (26.66%) เหลือมูลค่าหุ้นละ 55.14 เหรียญ หลังจากที่บริษัทเผยรายได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของบริษัทในวันพฤหัสบดี
สำหรับไตรมาสล่าสุด บริษัทมีรายได้ 1,070 ล้านเหรียญ ซึ่งน้อยกว่าการคาดการณ์ของ the Street ที่ 1,100 ล้านเหรียญ
สาเหตุที่ SNAP โทษ Apple ว่าทำให้รายได้บริษัทลดลงนั้นมาจากฟีเจอร์ App Tracking Transparency (ATT) ที่ทำให้แอปต่าง ๆ ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ในการเก็บข้อมูล ทำให้ประสิทธิภาพในการยิงโฆษณานั้นลดลงในผู้ใช้ iOS
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่ 4 SNAP คาดหวังว่าจะมีผู้ใช้งานแอปพลิเคชันในแต่ละวัน (daily active users) ประมาณ 316 ถึง 318 ล้านราย
อีวาน สปีเกล (Evan Spiegel) ซีอีโอของ SNAP กล่าวว่า “ในขณะที่เราคาดหวังว่าจะเจอปัญหา business disruption แต่มาตรการใหม่ของ Apple กลับไม่ได้เป็นแบบที่เราคาดคิด นั่นทำให้การโฆษณาสำหรับพาร์ทเนอร์ของเรายากมากขึ้นทั้งเรื่องการจัดการแคมเปญโฆษณาในระบบ iOS ด้วย”
ไม่เพียงแค่ Snapchat เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ แต่แอปพลิเคชันและบริษัทอื่น ๆ ที่พึ่งพาการโฆษณาจากระบบ iOS เช่น Facebook ล้วนได้รับผลกระทบทั้งสิ้น