SCOOP : "รัน ทากาฮาชิ" จากไวรัลสู่มือตีหัวเสาที่ดีที่สุดของเอเชีย

Home » SCOOP : "รัน ทากาฮาชิ" จากไวรัลสู่มือตีหัวเสาที่ดีที่สุดของเอเชีย
SCOOP : "รัน ทากาฮาชิ" จากไวรัลสู่มือตีหัวเสาที่ดีที่สุดของเอเชีย

ในวอลเลย์บอล เนชั่นส์ ลีก เมื่อปี 2021 ณ ประเทศอิตาลี ชื่อของ รัน ทากาฮาชิ (Ran Takahashi) หัวเสาทีมชาติญี่ปุ่น ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในกลุ่มแฟนวอลเลย์บอลชาวไทย ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ดึงดูดเเฟนลูกยางสาวๆ เเละฝีไม้ลายมือที่เเฟนลูกยางหนุ่ม ๆ ยังต้องยอมรับ

ซึ่งไม่ใช่แค่กับแฟนกีฬา แต่รวมทั้งนักกีฬาทีมชาติไทยหลาย ๆ คนที่ถึงกับเสียอาการเมื่อเจอเสน่ห์ของพ่อหนุ่มคนนี้แบบตัวเป็น ๆ จนอดใจไม่ไหวต้องขอถ่ายภาพคู่เป็นที่ระลึก
351996636_212966661109670_709นับจากวันที่เป็นเพียงดาวรุ่ง ผ่านมา 2 ปี รัน ทากาฮาชิ เติบโตขึ้นทั้งฝีมือและประสบการณ์ภายใต้การดูแลของ ยูกิ อิชิกาวะ รุ่นพี่กัปตันทีมและนักกีฬาต้นแบบของเจ้าตัว ก่อนผลิดอกออกผล คว้ารางวัลหัวเสายอดเยี่ยมของศึกชิงแชมป์เอเชียปีล่าสุดได้สำเร็จ

ในฐานะที่ ญี่ปุ่น คือเต็งหนึ่งของวอลเลย์บอลชาย ในมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ณ เมืองหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ทีมงานสเตเดียม ขอพาทุกคนไปทำความรู้จัก “น้องรัน” ให้มากขึ้น แล้วจะรู้ว่าเรื่องรูปร่างหน้าตาเป็นเพียงข้อดีส่วนน้อยที่สุดของเขาเท่านั้น

เจ้าชายเลือดผสม

โครงหน้าและรูปร่างของ รัน ทากาฮาชิ แตกต่างจากชาวญี่ปุ่นหรือชาวเอเชียทั่ว ๆ ไป นั่นเพราะว่าเจ้าตัวได้เชื้อสายอเมริกันจากคุณปู่ ส่วนคุณแม่เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น-เยอรมัน และเจ้าตัวยังมีสายเลือดอังกฤษผสมอีกด้วย แต่กลายเป็นว่าองค์ประกอบเหล่านั้นรวมกันได้อย่างพอดีไม่ขาดไม่เกิน

ขณะเดียวกันถึงแม้จะเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลเช่นเดียวกับ รุย พี่ชาย และริริ น้องสาว แต่ที่มาของชื่อ “รัน” เจ้าตัวเฉลยว่ามาจากการที่คุณพ่อเป็นแฟนกีฬาเบสบอล จึงได้นำคำว่า “รัน” จาก โฮม รัน มาตั้งให้ ซึ่งจนแล้วจนรอดภารกิจที่คุณพ่ออยากกล่อมให้ลูกชายมาเป็นแฟนเบสบอลเหมือนตัวเองก็ทำไม่สำเร็จ เพราะทุกครั้งที่พาลูก ๆ ไปดูแมตช์แข่งที่สนาม ทั้ง รัน และ รุย กลับหนีออกไปเล่นวอลเลย์บอลกันเสียอย่างนั้น ซึ่งคนที่เป็นแรงบันดาลใจให้รันเล่นกีฬาชนิดนี้ก็คือพี่ชายของเขานั่นเอง

“วันหนึ่งพี่ชายผมเริ่มบอกพ่อกับแม่ว่าอยากเล่นวอลเลย์บอล แล้วเขาก็พูดอยู่อย่างนั้นเป็นปีจนพ่อกับแม่ใจอ่อนและได้เล่นวอลเลย์สมใจอยาก แล้วตัวผมเองตามไปดูพี่ตอนซ้อมและแข่งอยู่บ่อย ๆ ครั้งหนึ่งตอนที่ผมอยู่ประถมปีที่ 2 ผมไปดูพี่ซ้อมแข่งแล้วสมาชิกคนหนึ่งลาหยุดอีกคนก็ไม่มาที่สนาม ผมจึงได้ลงเล่น และเริ่มเล่นมาตั้งแต่ตอนนั้น”

240738344_326348349241226_437จากตัวแถมสู่หัวเสาที่เก่งรอบด้าน

จุดเด่นสำคัญอย่างหนึ่งของ รัน ทากาฮาชิ ไม่ใช่แค่การขึ้นทำแต้ม แต่ยังรวมถึงเกมรับที่ทำได้ดีเป็นอันดับต้น ๆ สืบเนื่องมาจากช่วงเริ่มต้นที่ตามพี่ชายไปเล่นวอลเลย์แต่รูปร่างยังเล็กกว่าคนอื่น ๆ ในทีม จึงต้องเน้นซ้อมทักษะการรับลูก รวมถึงได้รับบทบาทลิเบอโร่ไปโดยปริยาย ขณะที่พี่ชายเป็นเอซหรือตัวทำแต้มหลักของทีม  

“สมัยประถม ผมได้รับลูกตบอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นมันจึงเป็นจุดเริ่มต้น แล้วผมก็ชอบมันด้วย เพราะการหยุดไม่ให้คู่แข่งได้แต้มให้ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม เช่นเดียวกับทักษะการรับเสิร์ฟ ซึ่งความสามารถรับลูกเหล่านี้เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าผมเป็นนักวอลเลย์บอลแบบไหน”  

อย่างไรก็ตาม เมื่อขึ้นชั้นมัธยมต้นความสูงของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ได้เปลี่ยนสู่ตำแหน่งมือตีหัวเสา และยึดตัวจริงทีมโรงเรียนมัธปลายฮิงาชิยามะได้สำเร็จตั้งแต่ย้ายเข้าไปปีแรก ก่อนจะเป็นเอซและกัปตันทีมในปีสุดท้าย ซึ่งเจ้าตัวพาทีมเข้ารอบรองชนะเลิศศึกอินเตอร์ไฮได้สำเร็จ และคว้าแชมป์ในเทศการกีฬาแห่งชาติ รวมทั้งศึกชิงแชมป์ฤดูหนาวที่เขาคว้าตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่าอีกด้วย ซึ่งด้วยความโดดเด่นนี้เองทำให้ถูกเรียกตัวเข้าแคมป์ทีมชาติญี่ปุ่นทั้งที่ยังเรียนไม่จบมัธยมปลาย

ศึกสายเลือด, VNL 2021 และ โตเกียว 2020

หลังจากจบระดับมัธยม รัน ทากาฮาชิ เลือกเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งชาติ ซึ่งอยู่ในภูมิภาคคันโต โดยมีสาเหตุคืออยากเสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกาย และอยากดวลกับ รุย พี่ชายของตัวเองที่สังกัดมหาวิทยาลัยนิฮง ซึ่งในรายการมหาวิทยาลัยชิงเเชมป์ญี่ปุ่น รันได้ดวลกับพี่ชายสมใจในรอบรองชนะเลิศ และเอาชนะไปได้สำเร็จ แต่สุดท้ายทำได้เพียงเเค่ “รองเเชมป์” เท่านั้น อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวยังได้รับเลือกเป็น “นักตบทรงคุณค่า” ประจำทัวร์นาเมนต์ จนได้รับโอกาสจาก ทีมงานผู้ฝึกสอนของทืมวอลเลย์บอลชายญี่ปุ่น เรียกตัวเข้าเเคมป์ฝึกซ้อมทีมชาติ

รายการแรกในนามทีมชาติญี่ปุ่นของ รัน คือ วอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีก 2021 ที่สร้างความฮือฮาและสร้างความประทับใจให้กับแฟนๆทั้งในและนอกประเทศ ด้วยความสามารถของผู้เล่นดาวรุ่งที่เพิ่งจะผ่านระดับชั้นมัธยม และก้าวขึ้นมาต่อกรกับนักกีฬาซูเปอร์สตาร์ระดับโลกได้อย่างยอดเยี่ยม ในที่สุด เจ้าตัว ก็กลายเป็น 1 ใน 12 ขุนพลญี่ปุ่น ชุดลุย โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศบ้านเกิด ก่อนสุดท้ายจะพ่ายต่อ บราซิล เเละสิ้นสุดเส้นทางเพียงเเค่ รอบก่อนรองชนะเลิศเท่านั้น ส่วนศึกชิงแชมป์เอเชียในบ้านเกิด รัน เป็นหนึ่งในกำลังหลักของทีมที่กรุยทางถึงรอบชิงชนะเลิศ ก่อนจะแพ้อิหร่านไปอย่างน่าเสียดาย

สู่โลกกว้าง

ถึงแม้จะยังเรียนไม่จบระดับมหาวิทยาลัย แต่เมื่อได้รับข้อเสนอจากสโมสร ปัลลาโวโล ปาโดวา ทีมในลีกดิวิชัน 1 ของ อิตาลี ในช่วงปลายปี 2021 รัน ตัดสินใจท้าทายตัวเองทันที ด้วยเป้าหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของตัวเองก่อนถึงโอลิมปิกปี 2024

“ตอนผมเล่นให้ทีมชาติญี่ปุ่นแล้วเจอทีมระดับโลกทำให้เข้าใจดีว่าอะไรคือสิ่งที่ตัวเองยังขาดไป หลังจากจบโอลิมปิกที่โตเกียวแล้ว ผมเหลือเวลาอีกสามปีกว่าจะถึงโอลิมปิกที่ปารีส จึงเป็นเรื่องปกติสำหรับผมที่จะพัฒนาตัวเองและลงแข่งระดับที่สูงขึ้นภายใต้ระยะเวลาที่จำกัด เพราะถ้าผมเพิ่มขีดความสามารถได้ ญี่ปุ่นก็จะแข็งแกร่งขึ้น ผมจึงตัดสินใจท้าทายตัวเอง”

รัน ทากาฮาชิ ลงเล่นให้กับ ปาโดวา 2 ฤดูกาล โดยเลือกใส่หมายเลข 14 เหมือนกับสมัยที่ ยูกิ อิชิกาวะ ขวัญใจของตัวเองเคยลงเล่นให้สโมสรแห่งนี้ ซึ่งแม้จะไม่ได้ประสบความสำเร็จในแง่ของเกียรติยศ แต่สิ่งที่ลำค่ายิ่งกว่าคือประสบการณ์

“ผมเคยเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในทีมชาติเลยพึ่งพาพวกพี่ ๆ แต่พอได้มาเล่นกับปาโดวาและเจอกับเหล่านักกีฬาชั้นนำทำให้ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้มากขึ้น ผมกล้าพูดได้เลยว่าตลอดทั้งฤดูกาลที่ผ่านมาผมลงเล่นในฐานะตัวหลักของทีม ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรจะเป็นในฐานะนักกีฬาทีมชาติญี่ปุ่น ดังนั้นทั้งประสบการณ์และการเติบโตจากการลงเล่นที่นี่ช่วยให้ผมเป็นผู้เล่นที่ดียิ่งขึ้น”

ทั้งนี้ รัน ทากาฮาชิ เพิ่งตกลงเซ็นสัญญาย้ายไป เวโร วอลเลย์ มอนซา ทีมร่วมลีก ในฤดูกาล 2023-24

2023 ปีทองของวอลเลย์บอลชายทีมชาติญี่ปุ่น

ด้วยประสบการณ์ในต่างแดนของสามประสานคือ ยูกิ อิชิกาวะ, ยูจิ นิชิดะ และรัน ทากาฮาชิ ทำให้ปี 2023 ญี่ปุ่นพัฒนาความแข็งแกร่งไปอีกขั้น การเคลื่อนที่เหนือจินตนาการและพลังงานอันล้นเหลือในสนามทำให้การเล่นร่วมกันของพวกเขาเหมือนหลุดมาจากการ์ตูนอนิเมะเกี่ยวกับวอลเลย์บอลชื่อดังอย่าง ไฮคิว เลยทีเดียว และยังกลายเป็นผลพวงให้ชาติอื่น ๆ ในเอเชียเอาเป็นแบบอย่าง

ส่วนผลลัพธ์ในรูปแบบของผลงานก็ไม่ธรรมดา เมื่อผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศรายการเนชันส์ลีกได้สำเร็จ ซึ่งแม้จะแพ้แชมป์อย่างโปแลนด์ แต่ทัพตบลูกยางแดนอาทิตย์อุทัยก็สามารถปราบทีมแกร่งอย่างอิตาลีคว้าเหรียญทองแดงไปครองได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของทีม ก่อนที่จะสานต่อฟอร์มอันร้อนแรงในศึกชิงแชมป์เอเชียด้วยการล้างแค้นอิหร่านคว้าแชมป์สมัยที่ 10 ไปครองได้สำเร็จ โดยเสียเพียงเซตเดียวเท่านั้น และตัวของ รัน ทากาฮาชิ ยังคว้ารางวัลหัวเสายอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์อีกด้วย

นับจากนี้ เหลือเวลาอีกไม่กี่สัปดาห์ การแข่งขันวอลเลย์บอลชายใน มหกรรมเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ระหว่างวันที่ 23 กันยายน – 8 ตุลาคม 2566 ก็จะเริ่มต้นขึ้น แล้วมาติดตามกันว่า รัน ทากาฮาชิ พาทีมชาติญี่ปุ่นคว้าเหรียญทองสมัยที่ 9 ไปครองได้หรือไม่

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ