รายงานทางการเงินล่าสุดของ Samsung แสดงให้เห็นว่า บริษัทสามารถดำเนินการได้อย่างดีแม้ทั่วโลกจะประสบกับวิกฤติโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปถึงห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยี
โดยในระยะเวลา 3 เดือนถึงสิ้นเดือนกันยายนพบว่า Samsung สามารถทำสถิติรายได้สูงถึง 63,200 ล้านเหรียญ (จำนวนกว่า 2 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้วถึง 10% ในขณะที่กำไรกลับเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 26% เลยทีเดียว
Samsung สามารถทำกำไรใน Q3 ปี 2021 ได้มากถึง 13,500 ล้านเหรียญ (เกือบ 450,000 ล้านบาท) โดยสาเหตุที่รายได้และกำไรของ Samsung เพิ่มขึ้นนั้นมาจากความต้องการชิปที่เพิ่มขึ้นสูงจากวิกฤติการขาดแคลนชิปประมวลผล ทำให้ราคาของเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีราคาเพิ่มขึ้นตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา ทำให้แผนกที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ของ Samsung สามารถทำกำไรเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว
ไม่เพียงเท่านั้น Samsung ยังเผยว่า เสียงตอบรับของสมาร์ตโฟนพับได้ที่บริษัทเพิ่งเปิดตัวไปอย่าง Galaxy Z Fold 3 และ Galaxy Z Flip 3 ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ในส่วนธุรกิจการผลิตหน้าจอของ Samsung ก็มีการเติบโตขึ้น 21% เป็นมูลค่า 7,600 ล้านเหรียญ (ประมาณ 252,000 บาท) จากความนิยมของแผงหน้าจอขนาดเล็กที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตสมาร์ตโฟน แผงหน้าจอขนาดกลางที่ใช้กับแท็บเล็ตและแล็บท็อป แม้ว่าส่วนของแผงหน้าจอขนาดใหญ่อาจจะได้รับบาดแผลจากราคาจอ LCD ที่ลดน้อยลงก็ตาม
สำหรับอนาคต Samsung วางแผนที่จะลงทุนและขยายการผลิตโรงงานผลิตชิป โดยตั้งเป้าให้มีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 3 เท่าภายในปี 2026 และการลงทุนในด้านนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้รายได้ของบริษัทยังคงเติบโตต่อไปในอนาคต