เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 66 ที่ผ่านมา เพจเฟสบุ๊ค “Osauce Mini Zoo” ซึ่งเป็นเพจของมินิสวนสัตว์แห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ได้โพสต์ข้อความว่า
“วันนี้ขอแจ้งให้ทราบอย่างเป็นทางการ พรุ่งนี้ ทางเราจะขอเปิดมินิสวนสัตว์ เป็นวันสุดท้าย เนื่องจาก หลายๆ ท่านที่เข้ามาใช้บริการ ได้ทำร้ายสัตว์ของทางเรา และเอาของนอกเหนือจากฟาร์มได้เตรียมไว้ให้สัตว์ทาน และวันนี้ทางเราเจอ ผู้ปกครองกลุ่มนึงมาใช้บริการและได้โยน ถุงข้าวเหนียวให้เต่าทาน และ เจอเด็กอีกหลายกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในความดูแลของผู้ปกครองรังแกสัตว์ ทางเราจึงขอปิด ศูนย์การเรียนรู้อย่างถาวร ขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่เข้าใจและชื่นชอบในสัตว์ของทางเรา ทางเราขอเลือกความสุขของสัตว์และคุณภาพชีวิตของสัตว์เป็นอันดับแรก เพราะเรารักเหมือนลูกทุกตัว ซึ่งทางเราทนไม่ได้ที่ลูกๆ เราถูกรังแก และผิดจุดประสงค์ในการเปิดศูนย์การเรียนรู้นี้ไว้ตั้งแต่แรก”
ล่าสุด วันนี้ (13 มิถุนายน 2566) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านเลขที่ 16/2 หมู่ 13 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Osauce Mini Zoo มินิสวนสัตว์ดังกล่าว ซึ่งพบว่าได้มีผู้ปกครองพาลูกหลาน มาเที่ยวชมสวนสัตว์เป็นจำนวนมาก ภายหลังจากที่ทราบข่าวว่าวันนี้ (13 มิ.ย.) จะเป็นวันสุดท้ายที่เปิดให้เข้าชม ก่อนที่จะปิดมินิสวนสัตว์ ตามที่ได้แจ้งไว้ในเพจเฟสบุ๊ค โดยบรรยากาศภายในมินิสวนสัตว์ บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ มีการจัดสัดส่วนพื้นที่อย่างสวยงาม และมีกรงเลี้ยงสัตว์ป่าหาดูยาก และสัตว์ชนิดอื่นกว่า 30 ชนิด รวมกว่า 150 ตัว อาทิ สิงโตขาวอาฟริกา, สิงโตน้ำตาล, แมวป่าคาราคัล, แมวป่าเซอร์วัล, แมวป่าลูกผสมข้ามสายพันธุ์, นกกระจอกเทศ, เต่า, กระต่าย, ลา, หมูป่า, ไก่บ้าน และม้าแคระ เป็นต้น ซึ่งเด็กๆ สามารถเข้าชมได้อย่างใกล้ชิด โดยไม่เสียค่าเข้าชมแต่อย่างใด
โดยนายพินิตศักดิ์ จุลวรวงศ์ หรือบอสส์ อายุ 29 ปี เจ้าของมินิสวนสัตว์เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นของที่นี่ ตนเองได้เลี้ยงสัตว์และเพาะสัตว์อยู่แล้ว เมื่อปีที่แล้วจึงได้มาซื้อที่ตรงนี้กว่า 2 ไร่ เพื่อทำที่พักสัตว์ ก่อนที่จะเปิดให้คนเข้ามาชมได้ประมาณ 1 สัปดาห์ โดยไอเดียในการจัดตั้งสถานที่ตรงนี้ เพราะว่า มีโรงเรียนตามชนบทติดต่อเข้ามาขอชมสัตว์ ค่อนข้างมาก ตนจึงเกิดไอเดียว่า ให้คนเข้าชมฟรี ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ จุดเริ่มต้นที่ตั้งใจทำสถานที่ตรงนี้ เพียงเพราะว่าตนเองเป็นคนชอบเด็ก และไม่สามารถมีลูกได้ จึงรักสัตว์ และชอบเด็กเป็นอย่างมาก สถานที่ตรงนี้เลยจัดทำเพื่อเด็กโดยเฉพาะ เพราะอยากเห็นรอยยิ้มของเด็กๆ ทุกคน
มินิสวนสัตว์แห่งนี้ทำโดยไม่หวังผลประโยชน์ต่อสิ่งใด จึงไม่มีตู้บริจาค และตนก็ชอบช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลกอยู่แล้ว โดยการไถ่ชีวิตสัตว์ ช่วยเหลือสัตว์ และช่วยเหลือผู้อื่นโดยที่ไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำมาและสร้างมาตั้งใจทำเพื่อเด็กๆ โดยเฉพาะ และสถานที่ตรงนี้เป็นเพียงที่เก็บสัตว์ พักสัตว์ แต่ไม่สามารถติดป้ายบอกชนิดของสัตว์ได้ เนื่องจากสัตว์ที่นี่เป็นสัตว์เวียน เข้ามาแล้วออกไป จะเปลี่ยนหน้าสัตว์ตลอดเวลา สัตว์ป่าหลายชนิดเพาะพันธุ์ขายถูกต้องตามกฎหมาย และไม่มีการอดอาหารสัตว์หรือทรมานสัตว์ใดๆ ทั้งสิ้น อาหารได้กินครบทุกตัว เช้า – เย็น และไม่ได้มาหวังรวยจากการเป็นมินิสวนสัตว์ จึงเปิดให้ทุกคนเข้าชมฟรี
แต่ภายหลังจากที่ประกาศทางเพจเฟสบุ๊ค ให้คนเข้ามาชมฟรีอย่างไม่เป็นทางการได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวพาลูกหลานมาเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก รวมกว่า 30,000 คนแล้ว ก่อนที่เมื่อช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา จะพบว่ามีเด็กที่ผู้ปกครองไม่ค่อยดูแล แกล้งสัตว์ ทำร้ายสัตว์ต่างๆ นานา เช่น จับดึงขนสัตว์แรงๆ จนขนหลุด โยนข้าวเหนียวให้เต่ากิน และโยนผักให้ในกรงสัตว์กินเนื้อ เป็นต้น จนตนเองทนเห็นสัตว์ที่ถูกเด็กแกล้งไม่ได้ จึงตัดสินใจประกาศปิดไม่ให้คนทั่วไปเข้ามาชมสัตว์อีกต่อไป ยกเว้นแต่จะเป็นโรงเรียนในต่างอำเภอ ที่ต้องการพาเด็กๆ มาทัศนศึกษา ก็สามารถติดต่อสอบถามมาได้ตามเบอร์โทรศัพท์ที่ให้ไว้ในเพจเฟสบุ๊ค Osauce Mini Zoo ซึ่งจะรับพิจารณาเป็นโรงเรียนไป ทั้งนี้ตนเองขอฝากถึงผู้ปกครองที่จะพาเด็กไปเที่ยวที่ไหนก็ตาม ก็ควรจะดูแลบุตรหลานให้ดี ทำตามกฎของสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อไม่ให้เด็กไปทำร้ายสัตว์ เพราะอาจจะทำให้สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านั้นปิดไป และทำให้คนอื่นเสียโอกาสได้เที่ยวในอนาคต นายพินิตศักดิ์ฯ กล่าว