OR BRIC พลิกวิกฤติสู่ความสำเร็จ วางเป้าใหญ่สู่ ปี 2022

Home » OR BRIC พลิกวิกฤติสู่ความสำเร็จ วางเป้าใหญ่สู่ ปี 2022


OR BRIC  พลิกวิกฤติสู่ความสำเร็จ วางเป้าใหญ่สู่ ปี 2022

ศึก โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2021 ฝ่าวิกฤติ “โควิด-19” สู่ความสำเร็จยิ่งใหญ่ บอสใหญ่ “ตนัยศิริ” ปักธงปีหน้ายกระดับสู่ “อินเตอร์เนชั่นแนล เรซ” ดึงนักบิดจากทั่วโลกดวลเดือด หวังตรึงผู้ชมให้อยู่หมัด ตั้งเป้ากระจายฐานถ่ายทอดสดสู่ผู้ชมชาติอาเซียน 600 ล้านคนในอนาคต พร้อมปรับกฎกติกาใหม่ฤดูกาลหน้า

ภายใต้สถานการณ์ระบาดของ โควิด-19 วงการมอเตอร์สปอร์ตไทยต้องเจอวิกฤติอย่างหนัก จนไม่สามารถจัดการแข่งขันได้ “โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ” คือหนึ่งในรายการที่ต้องฝ่าฟัน และพยายามอย่างหนักในการหาทางออกให้ฤดูกาลเริ่มต้นขึ้น ขณะที่ทีมแข่งและนักบิดต่างอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากไม่สามารถฝึกซ้อมได้ รวมทั้งต้องเจอกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

จากการประกาศปลดล็อกมาตรการคุมเข้ม “โควิด-19” ของรัฐบาลไทย ศึก โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2021 จึงได้เริ่มต้นฤดูกาลแข่งขันอย่างเป็นทางการ เสมือนการกลับมาของฮีโร่นักบิดสายเลือดไทย “RISE OF THAI HERO”(ไรส์ ออฟ ไทย ฮีโร่) ซึ่งในปีนี้มีความพิเศษอย่างมาก เพราะแม้จะกำหนดปฏิทินการแข่งขัน 4 สนาม แต่ในสนามสุดท้าย ได้เพิ่มจำนวนเรซขึ้นมาเป็น 2 เรซ เพื่อให้การลุ้นแชมป์ประจำฤดูกาลมีความเข้มข้นมากขึ้น

สนามแรกในเดือนกันยายนที่ผ่านมา เป็นการจัดงานภายใต้มาตรการการป้องกันโรคระบาดอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยตามมาตรฐานสาธารณสุข ทุกฝ่ายตื่นตัวอย่างมากกับการแข่งขันที่รอคอย แฟนความเร็วก็ตื่นเต้นไม่แพ้กันเพราะยอดการเข้าชมผ่านระบบถ่ายทอดสดออนไลน์พุ่งสูงหลายแสนคนตลอดทั้งสุดสัปดาห์ เรียกได้ว่าสูงสุดนับตั้งแต่จัดการแข่งขันมา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2021 การแข่งขันระดับเอเชียไม่สามารถดำเนินการได้ เป็นปัจจัยให้ค่ายจักรยานยนต์ยักษ์ใหญ่ส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันอย่างคับคั่ง และนักบิดระดับเอเชียจากทั้ง ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์, ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม และ คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม รวมถึงบรรดายอดทีมแข่งทุกทีมในเมืองไทยก็ช่วยสร้างความเข้มข้นให้กับ “แชมเปี้ยนชิพ” อย่างมาก

สถานการณ์ลุ้นแชมป์ของทุกรุ่นทวีความเข้มข้นขึ้นทุกสนามและพลิกผันตลอดเวลา เป็นจุดเปลี่ยนที่ตรึงให้แฟนๆ ไม่สามารถเปลี่ยนช่องไปดูอย่างอื่นได้ นี่จึงเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ที่ประจักษ์ต่อสายตาทุกฝ่าย

นายเนวิน ชิดชอบ ประธาน สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า “เราใช้เวลา 7 ปี สู่รายการแข่งขันรถจักรยานยนต์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย และภายใต้สถานการณ์โควิด-19 เรายังร่วมแรงร่วมใจจัดแข่งขันแบบ New Normal ได้เป็นผลสำเร็จ ที่ผ่านมารายการนี้ได้สร้างนักแข่งไทยเพื่อก้าวสู่การเป็นนักแข่งระดับเอเชียและระดับโลกมาหลายต่อหลายปี และเรายังมีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับการแข่งขันในฤดูกาลต่อไปให้มีมาตรฐานสูงขึ้น ไปสู่ระดับเอเชีย รวมทั้งวางเป้าจะถ่ายทอดการแข่งขันสู่ประเทศในอาเซียนเพื่อไปสู่ผู้รับชม 600 ล้านคนในอนาคต”

นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด กล่าวว่า ช่วงต้นปี 2021 ตัวเลขผู้ติดเชื้อในไทยเพิ่มสูงกว่าเดิม ทำให้ต้องประเมินทุกอย่างอย่างใกล้ชิด การกลับมาจัดแข่งขันยากลำบากด้วยมาตรการคัดครองที่เข้มข้นมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยของทุกคนที่เข้าสู่สนาม แต่ด้วยความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในความสำเร็จนี้ นักแข่ง ทีมแข่ง ผู้สนับสนุน และสื่อมวลชน รวมทั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ทำให้การจัดการแข่งขันออกมาอย่างสมบูรณ์แบบและราบรื่น

“ฤดูกาลนี้เราปรับรูปแบบให้การลุ้นแชมป์มีความเข้มข้นขึ้น จากการเพิ่มเป็น 2 เรซ นักแข่งมีโอกาสแก้ตัวจากความผิดพลาด ขณะที่แฟนๆ ก็มีส่วนร่วมและได้ลุ้นกันอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เรายังได้เห็นการพัฒนาทั้งตัวนักแข่ง รถแข่ง และทีมงาน เรียกว่ายกระดับทั้งวงการ ทำให้เกมส์ลุ้นกันสนุกจนสนามสุดท้าย”

นายตนัยศิริ ยังกล่าวถึงแนวทางของ OR BRIC Superbike ว่า “ในปี 2022 จะเป็นการจัดการแข่งขันในรูปแบบอินเตอร์เนชั่นแนล เรซ เปิดให้นักแข่งต่างชาติเดินทางเข้ามาได้ มีการปรับกฎและกติกาการแข่งขันให้เปิดกว้างมากขึ้น เพื่อให้การแข่งขันสูสี-สนุก ประหยัดงบในการแข่งขันมากขึ้น ซึ่งในปีนี้จะเห็นว่ามีนักแข่งต่างชาติเข้ามาร่วมแข่งขันในสนามสุดท้ายทั้งจากอเมริกาและเกาหลี เป็นเครื่องชี้ว่าการแข่งขันของเราได้รับการยอมรับจากทั่วโลก”

ทั้งนี้ หนึ่งในแรงขับเคลื่อนหลักไปสู่ความสำเร็จของ ศึก โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ คือผู้สนับสนุนหลักอย่าง บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ ที่เคียงบ่าเคียงไหล่มาอย่างต่อเนื่อง และมีเป้าหมายเดียวกันในเส้นทางสายมอเตอร์สปอร์ต คือยกระดับวงการความเร็วให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพาร์ตเนอร์สำคัญอย่าง เครื่องดื่มตราช้าง, รถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า, บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด, บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด, บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน), ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), หมวกกันน็อกเรียล, ผ้าเบรกเน็กซ์เตอร์, บริดจสโตน โมโต ไทยแลนด์, การกีฬาแห่งประเทศไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

นายไพศาล อุดมกุลวณิชย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจหล่อลื่น บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ ในนามผู้สนับสนุนหลักการจัดการแข่งขัน กล่าวว่า “การแข่งขัน OR BRIC สร้างแรงผลักดันให้เกิดนักแข่งดาวรุ่งหน้าใหม่ ให้ได้มีเวทีสำหรับแสดงความสามารถและศักยภาพของตนเอง รวมถึงการสร้างโอกาสให้นักแข่งที่ชนะการแข่งขัน ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปสัมผัสประสบการณ์ในการแข่งขันรายการระดับนานาชาติ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของโออาร์ในการที่จะสนับสนุนวงการมอเตอร์สปอร์ตของไทยให้พัฒนายิ่งขึ้นต่อไป”

ทั้งนี้ หลังจบการแข่งขันได้มีการจัด งานแชมเปี้ยน เดย์ เพื่อมอบรางวัลแชมป์ประจำปีให้กับผู้ที่สร้างผลงานยอดเยี่ยมตลอดทั้งฤดูกาลของทุกรุ่น

นักบิดที่สามารถคว้าแชมป์ประจำปีรุ่นใหญ่ที่สุดอย่าง ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี เอสบี 1 พร้อมรับสิทธิ์ไวลด์การ์ดไปแข่งขัน เอเชีย โรด เรซซิ่ง ได้แก่ ฐิติพงศ์ วโรกร จาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ส่วนซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี เอสบี 2 ได้แก่ จุฑาพันธ์ เขียวนวล จาก เน็กซเตอร์ เรซซิ่ง ทีม , เอสบี 3 ได้แก่ ศิวกร สุวิพร จาก จอมไทย แฮปปี้โฮม เรซซิ่ง ทีม

ส่วนแชมป์ประจำปีในรุ่น ซูเปอร์ สต็อก 1,000 ซีซี เอสที 1 และได้รับสิทธิ์ไวลด์การ์ดแข่งขันเอเชีย โรด เรซซิ่ง ได้แก่ ชานนท์ ชุ่มใจ จาก ยามาฮ่า พีทีที บริดจสโตน อาร์ซีที, ส่วนแชมป์ประจำปี รุ่นซูเปอร์ สต็อก 1,000 ซีซี เอสที 2 นทีธาร ทองโคตร จาก ทีเอ็นพี มอเตอร์สปอร์ต, เอสที 3 ได้แก่ ศิวกร สุวิพร จาก จอมไทย แฮปปี้โฮม เรซซิ่ง ทีม

แชมป์ประจำปี ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เอสเอส1 ได้แก่ รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ส่วน เอสเอส 2 ได้แก่ ญานศรณ์ ยานะพันธ์ จาก ยามาฮ่า เอ็ม.ที.-ไฮสปีด หั่ง โมดิฟาย

แชมป์ประจำปี ซูเปอร์สปอร์ต 400 ซีซี เอสเอส1 ได้แก่ วรพงศ์ มาลาหวล จาก ไฮสปีด เรซซิ่ง ทีม, เอสเอส 2 ได้แก่ เพชรวุธ เพชรช่วย จาก พีทีที ลูบริแคนต์ ติ๊งโน๊ต ช็อป มินิ โมโต ไออาร์ซี วายเอสเอส ดี.ไอ.ดี. ศรีประจันต์วัฒนยนต์ นก จูนเนอร์, เอสพี ได้แก่ พงษ์สิริ อ่อนเจริญ จาก ยามาฮ่า ดับเบิลยูพี หาดใหญ่ เรซซิ่ง กิ๊กะไบค์ ไฮสปีด พิเรลลี ดี.ไอ.ดี. มาร์ค ช่างดำจันทบุรี ทีม, เอสพี จูเนียร์ ได้แก่ ภาสกร แสนหลวง จาก ยามาฮ่า ดับเบิลยูพี หาดใหญ่ เรซซิ่ง กิ๊กะไบค์ ไฮสปีด พิเรลลี ดี.ไอ.ดี. มาร์ค ช่างดำจันทบุรี ทีม

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ