ปัญหาแรกๆที่ โอเล กุนนาร์ โซลชา กุนซือปีศาจแดง ต้องเร่งแก้ไขเพื่อให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาเข้าฝักอีกครั้งคือวิธีการเล่นของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงทีมชาติโปรตุเกส
ยูไนเต็ด รู้ดีว่าพวกเขาได้ตัวหนึ่งได้ดาวยิงที่เฉียบคมที่สุดมาร่วมทีม จึงไม่น่าแปลกใจหากจะเห็นเพื่อนร่วมทีมต่างพากันแจกจ่ายบอลไปให้เขาซ้ายทีขวาที
แต่สิ่งที่พวกเขาอาจจะมองข้ามไปคือการต้องแลกด้วยเวิร์คเรตที่ต่ำ และการเพรสซิ่งที่น้อยลงจากดาวยิงชาวโปรตุเกส
อาจจะไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจที่ โรนัลโด้ มีอัตราการวิ่งเพรสซิ่งต่อ 90 นาที ที่ต่ำที่สุดในหมู่กองหน้าทุกคนใน พรีเมียร์ลีก เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขามักจะถูกขนานนามว่าเป็น ‘จอมแทปอิน’
กับสโมสรอื่น ผู้เล่นรอบตัว โรนัลโด้ มักจะคอยทำหน้าที่วิ่งกดดันแทนเขาอยู่เสมอ อันที่จริงบ่อยครั้งที่เราจะได้เห็น คาริม เบนเซม่า หรือ แบร์นาเดสคี่ ต้องทำงานหนักเป็นสองเท่าเพื่อให้ โรนัลโด้ สามารถทำสิ่งที่ตัวเองถนัดได้อย่าง่ายดานขึ้น
ซึ่งก็คือการหาช่อง และจบสกอร์ แต่ไม่ใช่ที่นี่ เพราะกับ ยูไนเต็ด ไม่มีใครวิ่งกดดันผู้เล่นคู่แข่งเลย สังเกตุได้จากตัวเลขของ เมสัน กรีนวู้ด ที่อยู่ลำดับท้ายๆเช่นเดียวกัน
ฤดูกาลที่แล้วกับ เอดินสัน คาวานี่ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าจะวิ่งพล่านไปทั่วอยู่เสมอ – แมนฯ ยูไนเต็ด มีค่าเฉลี่ยในการวิ่งเพรสซิ่งที่ 132.7 ต่อ 90 นาที ซึ่งลดลงเหลือ 117.3 ในฤดูกาลนี้
แน่นอน โรนัลโด้ ไม่ใช่ปัญหาเดียวที่ส่งผลต่อฟอร์มที่ย่ำแย่ของ ยูไนเต็ด เพราะยามที่พวกเขาเสียบอล ใครๆ ก็สามารถเห็นตรงกันว่าการยืนตำแหน่งของพวกเขาไร้ระบบระเบียบโดยสิ้นเชิง
โซลชา ยอมรับเองหลังเกมว่าอาจต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านแทคติก และการถอด โรนัลโด้ ออกอาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก แต่การหาวิธีการทางแทคติกที่จะงัดจุดเด่นของเขาออกมาต่างหากที่เป็นทางออก
เขาต้องหาทางที่จะปกปิดข้อด้อยในการเล่นเกมรับของ โรนัลโด้ ซึ่งอาจจะหมายถึงการหามดงานมาคอยช่วย และใช่เราอาจจะกำลังพูดถึง เฟร็ด หรือ แม็คโทมิเนย์ อยู่