[OPINION] จับตา 4 สิ่งที่ ลิเวอร์พูล ต้องทำเพื่อกลับมาลุ้นแชมป์ลีกซีซั่นหน้า

Home » [OPINION] จับตา 4 สิ่งที่ ลิเวอร์พูล ต้องทำเพื่อกลับมาลุ้นแชมป์ลีกซีซั่นหน้า
[OPINION] จับตา 4 สิ่งที่ ลิเวอร์พูล ต้องทำเพื่อกลับมาลุ้นแชมป์ลีกซีซั่นหน้า

ต้องยอมรับว่าผลงานของ ลิเวอร์พูล ใน พรีเมียร์ลีก ซีซันนี้เป็นอะไรที่น่าผิดหวังเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าพวกเขาต้องเจอกับปัญหานักเตะบาดเจ็บทั้งฤดูกาล รวมทั้งอาการฟอร์มตกของผู้เล่นตัวหลักบางราย นั่นจึงทำให้พวกเขามีลุ้นเพียงแค่ “ท็อปโฟร์” เพื่อคว้าโควต้าไป ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก เท่านั้น

ดังนั้นในช่วงซัมเมอร์นี้จึงถือเป็นการกลับมาตั้งหลักกันอีกครั้งของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เพื่อพาทีมกลับมาทวงคืนความสำเร็จบนเวทีในประเทศและในยุโรปให้ได้

และนี่คือ 4 สิ่งที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องทำหากต้องการพา หงส์แดง เป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก

1. ซื้อเซ็นเตอร์แบ็กเพิ่ม

Virgil van Dijk, Eddie NketiahVirgil van Dijk, Eddie NketiahLiverpool v Arsenal – Carabao Cup Fourth Round | Laurence Griffiths/Getty Images

2 ซีซันที่ ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จอย่างมากมายนั้นต้องไม่ลืมว่า เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ คือกำลังสำคัญของทีม ไม่ใช่แค่ในแดนหลัง แต่เขายังเป็นทุกอย่างที่ทีมขาดไม่ได้ พิสูจน์ได้จากในซีซันนี้ที่ยามไร้กองหลังร่างยักษ์ หงส์แดง ก็กลายเป็นเพียงทีมลุ้นท็อปโฟร์และไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลย

การมี โอซาน คาบัค ที่กำลังเล่นได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมเมื่อเดือนมกราคมด้วยสัญญายืมตัวจาก ชาลเก้ 04 ถือว่าพอจะช่วยลดปัญหาในแดนหลังได้ส่วนหนึ่ง ซึ่งหาก เยอร์เก้น คล็อปป์ และทีมงานมองว่านักเตะรายนี้สมควรจะได้ค้าแข้งในถิ่น แอนฟิลด์ ต่อไปก็นับว่าเป็นการเสริมทัพที่น่าสนใจไม่น้อย

แต่เมื่อดูจากเซ็นเตอร์แบ็คคนที่เหลือ โจเอล มาติป ก็ไม่น่าจะใช่ตัวหลักที่สามารถพึ่งพาได้ในระยะยาว โจ โเกมซ ยังเด็กไปที่จะก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักในแดนหลัง ดังนั้น ลิเวอร์พูล จะต้องลงตลาดซัมเมอร์อย่างจริงจังเพื่อหาเซ็นเตอร์แบ็คที่สามารถยกระดับเกมรับของทีมได้เหมือนกับที่ ฟาน ไดค์ ทำมาแล้ว เพราะไม่มีใครรู้ว่ากองหลังทีมชาติฮอลแลนด์จะกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่ และจะสามารถยืนระยะได้นานขนาดไหน

2. สลับใช้งานฟูลแบ็กบ้าง

Andy Robertson, Trent Alexander-ArnoldAndy Robertson, Trent Alexander-ArnoldLiverpool v Arsenal – Premier League | Laurence Griffiths/Getty Images

เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ อาจจะเป็นประเด็นระหว่าง เยอร์เก้น คล็อปป์ และ แกเร็ธ เซาธ์เกต อยู่ช่วงหนึ่ง แต่ต้องยอมรับความจริงที่ว่าทั้งเขาและ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ถูกจับลงสนามอย่างต่อเนื่องแทบจะทั้งฤดูกาล โดยเฉพาะในแท็คติกของ ลิเวอร์พูล ที่มักใช้งานฟูลแบ็คอย่างหนักทั้งเกมรุกและเกมรับ ซึ่งเป็นแบบนี้แทบจะทุกนัด แน่นอนว่ามันย่อมส่งผลต่อสภาพร่างกายและสภาพจิตใจในระยะยาวได้

เราอาจลืมไปว่า คล็อปป์ มีตัวเลือกในตำแหน่งฟูลแบ็คทั้ง เจมส์ มิลเนอร์, คอสตาส ซิมิคาส และ เนโก้ วิลเลียมส์ ซึ่งหากแบ็คซ้าย-ขวาตัวจริงไม่มีอาการบาดเจ็บก็ยากที่แบ็คอัพเหล่านี้จะได้ลงสนามยืดเส้นยืดสาย อย่างไรก็ตามการลุ้นแชมป์ในซีซันหน้าคาดว่าจะเข้มข้นมากยิ่งขึ้นเพราะคู่แข่งก็ต่างมีความพร้อมกันมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด การพักตัวหลักในบางเกมเพื่อคงความสดไว้บดบี้จนถึงช่วงท้ายฤดูกาลจึงเป็นสิ่งสำคัญในการกลับมาลุ้นแชมป์ในครั้งนี้

3. ต้องซื้อมิดฟิลด์ตรงกลางเพิ่ม

Georginio Wijnaldum, Tyler RobertsGeorginio Wijnaldum, Tyler RobertsLeeds United v Liverpool – Premier League | Clive Brunskill/Getty Images

เมื่อมองไปยังแผงกองกลางของ ลิเวอร์พูล ในชุดปัจจุบัน แม้ว่าจะมีนักเตะในชุดแชมป์ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก และ พรีเมียร์ลีก อย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จีนี ไวจ์นัลดุม, เจมส์ มิลเนอร์, ฟาบินโญ, และ นาบี เกอิต้า แต่ 2 ใน 5 ก็กำลังอยู่ในช่วงปลายของการค้าแข้ง และในรายของ ไวจ์นัลดุม ก็กำลังจะย้ายทีมหลังหมดสัญญา ส่วน เกอิต้า ยังไม่สามารถคาดเดาอนาคตได้ เอาเข้าจริง เหลือเพียงกองกลางแซมบ้าเท่านั้นที่อาจจะได้ลงเล่นสม่ำเสมอมากที่สุดในฤดูกาลหน้า

การซื้อ ติอาโก้ อัลคันทารา เข้ามาถือว่าเป็นการเสริมทัพที่น่าพอใจ เพราะทั้งประสบการณ์และเซ้นส์บอลจะช่วยยกระดับการเล่นของทีม แต่พวกเขาก็ยังต้องการกองกลางอีกซักคนที่เข้ามาแทนที่ของ ไวจ์นัลดุม ซึ่งหลายคนอาจสนับสนุนให้ดันเจ้าหนู เคอร์ติส โจนส์ ขึ้นมามีบทบาทมากขึ้น แต่เมื่อมองความเป็นจริงก็คือดาวรุ่งรายนี้อาจจะต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์อีกซักปีหรือสองปีกว่าจะเบียดแย่งตัวจริงในทีมชุดใหญ่ได้ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการได้ใครซักคนที่สามารถใช้งานได้ทันทีเข้ามาช่วยในแผงกองกลางน่าจะเหมาะสมกว่า

4. ตัดใจขายหนึ่งในสามประสานแดนหน้า

Mohamed Salah, Roberto FirminoMohamed Salah, Roberto FirminoLiverpool v Newcastle United – Premier League | Pool/Getty Images

ประเด็นนี้มีการพูดถึงมาตลอดในช่วงหลัง เพราะเมื่อหันมาดูอายุอานามของแต่ละคนแล้วก็น่าจะถึงเวลาที่ต้องมีใครซักคนที่อาจจะต้องเดินออกจาก แอนฟิลด์ ในช่วงซัมเมอร์ ไล่ไปตั้งแต่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน (29 ปี) ซาดิโอ มาเน (29 ปี) และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (28 ปี) ไหนจะเรื่องฝีเท้าและความเฉียบคมในการทำประตูที่ลดลงอย่างน่าใจหาย การเปลี่ยนแปลงจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพื่อเพิมมิติและความสดใหม่ให้เกมรุก

ชื่อของ ซาลาห์ กลายเป็นชื่อที่มีข่าวมากที่สุดในช่วงหลัง แต่นี่คือกองหน้าที่ดีที่สุดของ ลิเวอร์พูล ในเวลานี้ คงเป็นเรื่องยากที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ จะยอมปล่อยตัวออกจากทีม ดังนั้นจึงอาจจะเป็นใครคนใดคนหนึ่งระหว่าง มาเน และ ฟีร์มีโน ซึ่งน่าจะเป็นรายหลังที่ดูจะฟอร์มตกลงไปในช่วงหลัง และถึงเวลาที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องทดแทนด้วยกองหน้าแท้ ๆ ซักที

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ