ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของเว็บไซต์เก็บเงินค่าสมาชิก OnlyFans ชาวอังกฤษ ก้าวลงจากตำแหน่งและส่งมอบตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารให้แก่หัวหน้าเจ้าหน้าที่การตลาดของบริษัท ที่เป็นสตรีอเมริกันเชื้อสายอินเดียวัย 36 ปี
ทิม สโตกลีย์ ชาวอังกฤษผู้ก่อตั้ง OnlyFans เมื่อปี 2016 ประกาศผ่านบัญชีโซเชียลมีเดียของเขาว่า เขาก้าวลงจากตำแหน่งนี้เพื่อ “ออกค้นหาความพยายามใหม่ ๆ” โดยส่งมอบตำแหน่งให้แก่ อมราปาลี กาน หรือ “เอมิ” ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่การตลาดของบริษัทมาตั้งแต่ ก.ย. 2020
“เอมิมีความหลงใหลอย่างลึกซึ้งในธุรกิจของ OnlyFans ดังนั้นผมจึงขอส่งไม้ต่อให้แก่ผู้เป็นทั้งมิตรและเพื่อนร่วมงาน ผู้มีวิสัยทัศน์และแรงขับเคลื่อนผลักให้องค์กรพุ่งไปถึงศักยภาพสูงสุด” สโตกลีย์กล่าวผ่านบัญชีอินสตาแกรมเมื่อ 21 ธ.ค.
- เว็บไซต์ OnlyFans โดนวิจารณ์อะไรมาบ้างก่อนเตรียมแบนวิดีโอทางเพศ
- มัลแวร์รีดไถกำลังอาละวาด ระวังคลิปโป๊ในเครื่องคุณ
- เหยื่อค้ามนุษย์ 40 ราย รวมตัวฟ้อง Pornhub
- “Deepfakes” เทคโนโลยีตัดต่อหน้าคนดังใส่หนังโป๊ กับผลกระทบที่มากกว่าจริยธรรม
https://www.instagram.com/p/CXv3e_sKSXf/
กาน กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า เธอจะร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับชุมชนผู้สร้างเนื้อหา เพื่อช่วยให้พวกเขา “มีอำนาจในการควบคุมเนื้อหาและหารายได้จากเนื้อหาที่พวกเขาผลิตได้อย่างเต็มที่”
เธอเสริมว่า Onlyfans ได้นำเสนอ “ประสบการณ์ที่ไม่มีใครเหมือน” ให้แก่ทั้งผู้สร้างเนื้อหาและผู้ติดตาม พร้อมทั้งสัญญาว่าจะทำให้ Onlyfans เป็น “โซเชียลมีเดียที่ปลอดภัยที่สุดในโลก”
ยอดสมาชิกพุ่งช่วงล็อกดาวน์
ในช่วงการระบาดใหญ่ เว็บไซต์นี้เติบโตจนมีผู้ใช้ถึง 180 ล้านราย และผู้ผลิตเนื้อหากว่า 2 ล้านคน ทั่วโลก โดยผู้ใช้เว็บไซต์จะจ่ายค่าสมาชิกรายเดือนให้กับคนที่พวกเขาชื่นชอบซึ่งมักจะโพสต์ภาพหรือวิดีโอวาบหวิวหรือโป๊ให้ดู
บริษัทระบุว่า จ่ายเงินให้ผู้ผลิตเนื้อหาไปแล้วถึงกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา
แม้ว่าผู้ผลิตเนื้อหาบางคนโพสต์วิดีโอทำอาหาร เล่นดนตรี หรือท่าออกกำลังกายให้ “แฟน ๆ” ดู แต่เว็บไซต์นี้เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดจากภาพและวิดีโอโป๊ โดยบริษัทได้รายได้จากการหักเงิน 20% ของค่าเนื้อหาที่ผู้ชมจ่ายให้แก่ผู้ผลิตเนื้อหา
เว็บไซต์นี้ก่อตั้งเมื่อปี 2016 เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์หลังการสืบสวนของบีบีซีพบว่า เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีใช้บัตรประจำตัวปลอมในการสมัครบัญชี และต่อมาในเดือน มิ.ย. บีบีซีพบว่า เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีขายวิดีโอที่มีเนื้อหาทางเพศบนเว็บไซต์นี้ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
เรื่องอื้อฉาวของเว็บผู้ใหญ่
OnlyFans เป็นที่นิยมมากเนื่องจากสร้างเป็นปรากฏการณ์ขึ้นมาว่าผู้หญิงธรรมดา ๆ หลายคนสามารถทำเงินได้เยอะจนชีวิตเปลี่ยน นอกจากนี้ ความพิเศษที่แตกต่างจากเว็บไซต์โป๊ธรรมดาคือเปิดโอกาสให้เจ้าของภาพและวิดีโอสร้างสายสัมพันธ์กับสมาชิกที่มาจ่ายเงินให้ได้
แต่เมื่อสืบค้นลึกลงไป OnlyFans ยังมีปัญหาเรื่องโครงสร้าง การจัดการ และการควบคุมเนื้อหาบนเว็บไซต์ หลังจากพูดคุยกับผู้ผลิตเนื้อหาลงเว็บไซต์นี้หลายสิบคนทั้งในสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ รวมถึงตรวจสอบเอกสารร้องเรียนต่าง ๆ ที่ส่งไปยังบริษัท บีบีซีพบว่า :
- มีการโพสต์วิดีโอที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการก่อการร้าย การขู่ข่มขืน และการเหยียดเชื้อชาติ เกิดขึ้นบนเว็บไซต์นี้ ซึ่งล้วนขัดกับนโยบายของบริษัท และก็มีการโพสต์รูปโป๊ของนักเรียนหญิงคนหนึ่งโดยไม่ได้รับความยินยอมด้วย
- ผู้เชี่ยวชาญกังวลเรื่องความปลอดภัยของเซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์หลังมีผู้ใช้ถูกแฮกบัญชี หรือเกิดความผิดพลาดทางเทคนิคทำให้รูปโป๊ของคนอื่นมาโผล่ในบัญชีตัวเอง
OnlyFans ระบุในเว็บไซต์ชัดเจนว่า ไม่ใช่ความรับผิดชอบของเว็บไซต์ที่จะคอยควบคุมเนื้อหา หรือสังเกตว่ามีการกระทำที่ขัดต่อนโยบายหรือกฎหมายหรือไม่
ในตอนนั้น OnlyFans บอกกับบีบีซีว่า แม้ว่าจะไม่มีข้อผูกมัดทางกฎหมายที่จะต้องควบคุมเนื้อหา แต่พวกเขาก็พยายามทำมากกว่ากฎเกณฑ์ที่มีอยู่ในการรับฟังคำร้องเรียนจากผู้ใช้และใช้ซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์ในการช่วยดูแลความปลอดภัยของผู้ใช้
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลบอกว่าระบบปัญญาประดิษฐ์อาจไม่สามารถพึ่งได้เมื่อนำมาใช้กับเนื้อหาที่เป็นภาพหรือวิดีโอโป๊ และบริษัทควรจะพึ่งคนในการเข้ามาช่วยตรวจสอบมากขึ้น
ซีอีโอใหม่ที่เกิดในมุมไบ
แถลงการณ์ของบริษัทระบุว่า กาน ได้รับมอบหมายให้ “รักษาการเติบโตของบริษัทและผลักดันวิสัยทัศน์และพันธสัญญาในการสร้างพลังให้แก่ผู้ผลิตเนื้อหา”
กาน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่าบริษัทจะเพิ่มการลงทุนใน OFTV แอปชมเนื้อหาแบบไม่เสียค่าบริการ และเพิ่มเครื่องมือใหม่ ๆ ให้แก่ผู้ผลิตเนื้อหาของ Onlyfans
สื่อออนไลน์ของอังกฤษและสหรัฐฯ ระบุว่าเธอเกิดในมุมไบ ประเทศอินเดีย แล้วย้ายมาเติบโต เรียนหนังสือ และทำงานในลอสแอนเจลิส สหรัฐฯ
บัญชีลิงก์อินของเธอระบุว่า ก่อนมาร่วมงานกับ OnlyFans กาน ดำรงตำแหน่งรองประธาน (vice president) ด้านการตลาด ให้แก่ คานาบิส คาเฟ่ (Cannabis Cafe) ช่วยรีแบรนด์ และเปิดตัวธุรกิจที่เรียกตัวเองว่า ภัตตาคารกัญชาแห่งแรก ในสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ เธอเคยทำงานด้านการสื่อสารการตลาดกับบริษัทผลิตสื่อในเครือเรดบูลในสหรัฐฯ
เว็บไซต์เดลีเมลรายงานว่า กานมีเพจทาง Only Fans ของตัวเอง ซึ่งเธอแชร์รูปเกี่ยวกับการท่องเที่ยว วันพักผ่อน และสุนัขช่วยชีวิต
……………….
ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ข่าวสด เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว