เล่นเอาคนในสหรัฐหวั่นกันเลยทีเดียว เมื่อ แมคโดนัลด์ (McDonald’s) บริษัทฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่ปิดสำนักงานใหญ่ชั่วคราว แถมยังแจ้งข่าวร้ายจ่อปลดพนักงาน โดยยังไม่ได้ระบุจำนวนที่จะเลิกจ้าง
เอพี รายงานว่า “แมคโดนัลด์ คอร์ป (McDonald’s Corp)” บริษัทฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่ที่มีสาขาทั่วโลกได้ปิดสำนักงานใหญ่ในสหรัฐเป็นการชั่วคราวในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากกำลังเตรียมประกาศปลดพนักงานประจำสำนักงานตามแผนปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่
แมคโดนัลด์ได้แจ้งให้พนักงานในสหรัฐและพนักงานในต่างประเทศผ่านอีเมลบริษัท ระบุว่า ขอให้พวกเขาทำงานที่บ้านตั้งแต่วันจันทร์ที่ 27 มี.ค. – วันพุธที่ 29 มี.ค. และให้พนักงานยกเลิกการประชุมทั้งในและนอกบริษัทไปก่อน เพื่อบริษัทจะได้ใช้เวลานี้ตัดสินใจเรื่องการปรับพนักงาน ส่วนจะเลิกจ้างจำนวนเท่าใดนั้นยังไม่สามารถตอบได้
โดยสัปดาห์นี้บริษัทจะแจ้งเกณฑ์การตัดสินใจ โดยพิจารณาทั้งจากบทบาทหน้าที่ และระดับปฏิบัติงานของพนักงาน คาดว่าแมคโดนัลด์จะเริ่มประกาศภายในระหว่างสัปดาห์ของวันที่ 3 เม.ย.
อย่างไรก็ตาม นายคริส เคมป์ซินสกี้ ซีอีโอของแมคโดนัลด์ เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า ทางบริษัทจะทบทวนตำแหน่งของพนักงานขององค์กร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ปรับโครงสร้างองค์กร อาจนำไปสู่การปลดพนักงานในบางประเทศ
นอกจากนี้ เขายังระบุเพิ่มเติมว่า “บางตำแหน่งที่ทำงานมานาน จะถูกลดความสำคัญหรือปิดไปโดยสิ้นเชิง สิ่งนี้จะช่วยให้เราก้าวไปได้เร็วขึ้น ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายทั่วโลก และเพิ่มทรัพยากรเพื่อการลงทุนในอนาคตเพื่อสร้างการเติบโต”
ทั้งนี้ ตามข้อมูลเผยว่า บริษัทฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่ปัจจุบันมีพนักงานทั่วโลกราว 200,000 คน และมีจำนวนสาขามากกว่า 38,000 แห่งในกว่า 100 ประเทศ ขณะเดียวกัน ในปี 2565 บริษัทรายงานว่ายอดขายทั่วโลกเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 11 ขณะที่ยอดขายในสหรัฐเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 6 โดยแมคโดนัลด์ เป็นร้านอาหารที่ทำรายได้มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก อยู่ที่ 2.33 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 800,000 ล้านบาท