ไม่นานมานี้ Counterpoint Research ได้เผยแพร่ตัวเลขยอดขายสมาร์ตโฟน 10 อันดับแรกของโลกมี iPhone ติดอันดับมากถึง 6 รุ่น โดย Counterpoint Research ระบุว่า 1 ใน 3 ยอดขายของ iPhone นั้นอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ส่วน 2 ใน 3 เป็นของทั่วโลก
อ้างอิงข้อมูลจาก Counterpoint Research ระบุว่า Apple คว้า 6 อันดับสมาร์ตโฟนที่ขายดีที่สุดในโลกจาก 10 อันดับประจำเดือนมกราคม โดย 4 อันดับแรกเป็น iPhone 12, iPhone 12 Pro Max, iPhone 12 Pro และ iPhone 11 ส่วน iPhone 12 mini ได้อันดับ 8, iPhone SE ได้อันดับ 10 จากรายงานระบุว่า iPhone 12 Pro Max, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 มีส่วนช่วยในยอดขายของ iPhone ทั้งหมดมากถึง 71%
สาเหตุที่ยอดขาย iPhone 12 สูงเพราะความต้องการในการอัปเกรดไปใช้งาน 5G พร้อมระบบปฏิบัติการ iOS รวมถึงโปรโมชันจากทางผู้ให้บริการเครือขายที่น่าสนใจทำให้ผู้ใช้งานหันไปซื้อ iPhone 12 กันค่อนข้างเยอะในสหรัฐอเมริกา
จากตารางของ Counterpoint Research เราจะเห็นได้ว่า ใน 10 อันดับนั้นไม่มีสมาร์ตโฟนกลุ่มเรือธงหรือสมาร์ตโฟนระดับพรีเมียมจากค่ายอื่น ๆ เลยนอกจาก iPhone เป็นตัวเลขที่น่าสนใจว่าผู้ใช้งานส่วนใหญ่อาจจะเลือกซื้อ iPhone มากกว่าหากต้องการใช้งานมือถือระดับพรีเมียม
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2020, Counterpoint Research ได้เผยแพร่ตัวเลขส่วนแบ่งตลาดสมาร์ตโฟนระดับพรีเมียมพบว่า Apple ครองส่วนแบ่งมากที่สุดถึง 57% ตามด้วย Samsung และ Huawei ที่ 19% และ 12% ตามลำดับ โดยแบ่งตามภูมิภาคได้ดังนี้
- อเมริกาเหนือ: Apple อันดับหนึ่ง Samsung อันดับสอง
- ลาตินอเมริกา: Apple อันดับหนึ่ง Samsung อันดับสอง
- ยุโรปตะวันตก: Apple อันดับหนึ่ง Samsung อันดับสอง
- ยุโรปตะวันออก: Apple อันดับหนึ่ง Samsung อันดับสอง
- จีน: Huawei อันดับหนึ่ง Apple อันดับสอง
- เอเชียแปซิฟิกที่ไม่รวมจีน: Apple อันดับหนึ่ง Samsung อันดับสอง
- ตะวันออกกลางและแอฟริกา: Apple อันดับหนึ่ง Samsung อันดับสอง
โดย 5 อันดับแรกสมาร์ตโฟนที่ขายดีที่สุดคือ iPhone 11, iPhone 11 Pro Max, iPhone 11 Pro, iPhone Xr และ Huawei Mate 30 Pro 5G
ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าที่ยอดขายของ iPhone 12 ยังดีมากแม้ดูแล้วไม่ค่อนมีอะไรเปลี่ยนแปลกจากรุ่นเก่าก็เพราะการมาของ 5G ที่เรียกว่ามาได้ทันเวลาพอดี (อย่างกับรู้ใจ) ทำให้ Apple กวาดยอดขายและส่วนแข่งตลาดสมาร์ตโฟนไปได้มากพอสมควรเลยทีเดียวครับ