หากคุณใช้งาน iOS 18 จะพบว่าในเรื่องของการชาร์จไฟมือถือว่ามีการตรวจสอบเยอะ แน่นอนครับ เพราะมันมีฟีเจอร์ขจองการตรวจสอบการชาร์จไฟนั่นเอง โดยระบบนี้จะตรวจสอบที่ชาร์จและอื่นๆ โดยรวม หากพบว่า เครื่องรับไม่สามารถปล่อยกำลังไฟได้ตามที่เครื่องต้องการก็จะขึ้นคำว่า “Slow Charger” ปรากฏ พร้อมกับแถบสีส้ม
ซึ่งเหตุผลที่ทำให้เกิดปัญหาชาร์จไฟช้าของ iPhone มีปัจจัยจัยเกิดจากสิ่งต่างๆ ดังนี้
- อุปกรณ์ชาร์จ
- สายชาร์จแบบมีสายที่จ่ายไฟ 7.5W หรือน้อยกว่า
- แท่นชาร์จไร้สาย Qi1 มาตรฐาน (น้อยกว่า 10W)
- พอร์ต USB ในรถยนต์หรือฮับ
- อุปกรณ์ชาร์จที่ใช้ร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ
- ปัจจัยอื่นๆ
- อุปกรณ์ชาร์จปลอม
- แท่นชาร์จไร้สายที่อ้างว่ารองรับ MagSafe แต่จ่ายไฟด้วยความเร็ว Qi มาตรฐาน
- การเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมอื่นๆ เช่น หูฟัง ระหว่างการชาร์จไร้สาย
- การใช้งานแอปพลิเคชันหนักๆ หรือเล่นเกมกราฟิกสูง ระหว่างการชาร์จ
- อุณหภูมิแวดล้อมที่สูงเกินไป
วิธีชาร์จ iPhone ให้เร็วขึ้น
- ใช้ที่ชาร์จ USB-C Power Delivery พร้อมสายชาร์จที่เหมาะสม (USB-C สำหรับ iPhone 15 ขึ้นไป หรือ USB-C to Lightning สำหรับรุ่นก่อนหน้า)
- ใช้ MagSafe Charger ของ Apple หรือแท่นชาร์จไร้สายที่ได้รับการรับรอง Qi2
ซึ่งฟีเจอร์นี้ออกมาเพื่อทำให้คุณมั่นใจว่าที่ชาร์จไฟ iPhone ของคุณก็ทำได้เร็วแล้วครับ แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้ iPhone แล้วเจอปัญหาเรื่องมือถือชาร์จไฟช้า เร็วๆ นี้ Sanook Hitech มีคำตอบมาฝากกันอย่างแน่นอน